เจริญรุ่งเรือง : กลอนเจ็ด
๏ มิเพียง เสียงหรีด
หริ่งเรไร............................กังวาน กาลไกร ในนิศา
ใบไม้ ต้องลม
พรมพนา..................................รับกัน ปานว่า มโหรี
๏ หยาดฝน รนริน
ยินพิสุทธิ์.............................ประดุจ ปุจฉา ณ คืนนี้
ฝนจะ ตกได้
เท่าไรดี?....................................ลังเล ที่จะ ตัดสินใจ
๏ ทำนอง ท้องนภ
ฟ้า(ร้อง)สนั่น.......................จังหวะ ประพันธ์ ครืนครันไส
ฟ้าแลบ
แปลบปลาบ วูบวาบไป........................กว้างไกล ในหมู่ ก้อนเมฆา
๏ กล่อมคน เข้านอน
ก่อนจะหลับ......................สดับ สรรพเสียง เคียงภาษา
ดื่มด่ำ
ธรรมชาติ นาฏยา..................................นิทรา อย่าหวัง ห่วงกังวล
๏ อยู่ใน โลกา
สรดื่น.......................................สุขผสม ขมขื่น ยืนสับสน(สรดื่น=ดาษดื่น)
การคอย กระทำ
ตามเขลาคน...........................จิจน ใจสาบ อาบทุกข์ทรวง
๏ (ความ)อยากมี อยากได้
(ในสิ่ง)ไร้สาระ...........ชีวา ภาวะ น่าเป็นห่วง
สาระ ไม่มี
สติ กลวง.......................................ดุจดวง ประทีป ที่ตีบตัน
๏ คำนึง
ถึงความดี+มีประโยชน์.........................ช่วยขจัด ความโฉด โทษมหันต์
จะทำ อะไร
ให้เท่าทัน.....................................ผลนั้น อันตราย อย่าป่ายปอง
๏ ศีลธรรม นำพา
สุคติ.....................................ดีงาม ดำริ โสตถิสนอง(โสตถิ=ความเจริญรุ่งเรือง)
เข้มงวด
กวดขัน คุณธรรม์ครอง.........................จงมอง โลกกว้าง อย่างเที่ยงตรงฯ
๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น