พระกรรมฐาน? : กลอนเจ็ด
๏ พระหัว ร่อร่า
อารมณ์ดี...............................มิใช่ ท่าที ของสมณะ(สมณะ=ผู้สงบ)
บ่งบอก อาการ
สรรสุขะ................................เยี่ยง ส ภาวะ ปุถุชน
๏ (ผู้)ยินดี บริโภค
โลกธรรม...........................(ย่อม)ไม่ล้ำ ล่วงเลย เกยมรรคผล
ยังคง หลงใหล
ในวังวน................................ประจญ สุข-ทุก ข เวทนา
๏ ผู้ทำ กรรมฐาน
ต้องต้านจิต..........................สมถะ สถิต เป็นอิฏฐา(สมถะ=ความสงบใจ,อิฏฐ-=ต้องใจ)
เพื่อจะ สงบใจ
ใช่มารยา................................มุ่งมาด วาสนา สร้างบารมี
๏ (วิธี)สงบใจ ให้สละ เกลศ
ลด.......................อุระ สลด คดวิถี(เกลศ=กิเลส)
ลาภ-ยศ-สักการ
ไม่มั่้นมี................................หลีกลี้ ตัณหา ตั้งอารมณ์
๏ (การ)จับกลุ่ม สุมหัว
(วิธี)ชั่วกรรมฐาน............เสมือนการ แสดง แฝงพาลสม
สร้างภาพ
เพื่อมี คนนิยม................................นำสู่ อุดม ลาภสักการ
๏ (ใคร)ยังมี ฤดีคุด
ทุจริต...............................ยังติด โลกธรรม (ยัง)ไกลกรรมฐาน
ยังชอบ
ครุ่นคิด ทำ(วิถี)พิสดาร........................ยังเป็น อันธพาล ไร้ปัญญา
๏ คนไทย ใจบุญ
สุนทานบ่ง...........................ประสงค์ เงินใส่ ให้วัดป่า
รุกราน
ธรรมชาติ ตัดพนา................................สร้างวัด ดั่งว่า พระราชวัง
๏ พระอยู่ หรูหรา
สุขสบาย..............................บวชมา สมหมาย ฤทัยหวัง
(จากครอบครัว)รากเหง้า
ยากจน ทนประทัง........เดี๋ยวนี้ โด่งดัง โอหังเอยฯ
๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๑
*กรรมฐานแปลว่า อุบายทางใจ มี ๒ ประการ
๑.อุบายสงบใจ เรียกว่า สมถกรรมฐาน
๒.อุบายเรืองปัญญา เรียกว่า วิปัสสนากรรมฐาน
*สพฺพตฺถ เว สปฺปุริสา วชนฺติ
น
กามกามา ลปยนฺติ สนฺโต
สุเขน
ผุฏฺฐา อถวา ทุกฺเขน
น
อุจฺจาวจํ ปณฺฑิตา ทสฺสยนฺติ.
สัตบุรุษทั้งหลาย
ย่อมเว้นในธรรมทั้งปวงแล,
สัตบุรุษทั้งหลาย หาใช่ผู้ปรารถนากามบ่นไม่,
บัณฑิตทั้งหลาย
อันสุขหรือทุกข์ถูกต้องแล้ว
ย่อมไม่แสดงอาการขึ้นลง.
From
<http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=16&p=8>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น