ชีวิตจริงไม่เหมือนนิยาย
: กลอนเปล่า
๏ ลูกแมว-ลูกหมา ถูกเอามาทิ้งที่วัด
พบเห็นเป็นระยะๆ
ไม่ขาดสาย
คือชีวิตที่ไร้ค่า?
คือวิธีผลักภาระ
อย่างไร้ความละอาย?
คิดว่า...กำจัดไปให้พ้นหูพ้นตา
เพื่อชีวาของตนพ้นความรำคาญเสียได้
เณร-พระคงจะปราณี
มีน้ำใจให้การเลี้ยงดู
๏ เณร-พระ อาศัยบิณฑบาตเลี้ยงชีวิต
ส่วนใหญ่ใคร่คิดแค่อัตตาเป็นอยู่
(แม้หลายวัดมีแม่ครัวปรุงอาหารประจำวัด)
อาหารที่ได้มาถูกปรุงเพื่อคน
ไม่ดลใจให้ลูกแมว-ลูกหมาชื่นชู
คือความจริงที่คนนำมาทิ้งไม่รับรู้
เณร-พระวัดไหนจะซื้อปลาทูมาเลี้ยงแมว(ทุกวัน)?
(หรือซื้อนมมาเลี้ยงลูกแมว-ลูกหมา)
๏ แค่คนนอกวัดผู้ใจดีมีเมตตา
คอยแวะเวียนมาให้อาหาร
ดูแลความเจ็บไข้
ให้การรักษาพยาบาล
ด้วยความสงสาร
และเชื่อในผลของการให้ทาน-ทำความดี
๏ อัตราการรอดชีวิตของลูกหมายังไม่เท่าไร
แต่ลูกแมวเสี่ยงภัยในวัดสารพัดมี
แมวใหญ่ไม่ชอบให้แมวตัวไหนมาอยู่ร่วมสถานที่
หมาใหญ่มักจะตามราวี
เพราะคิดว่า
การฆ่าแมวคือเกมกีฬา
๏ ประชากรของแมว-หมาในวัดจึงค่อนข้างคงที่
แม้ว่าจะมีคนนำมาทิ้งใหม่อยู่เรื่อยๆ
อยู่ไปตามบุญตามกรรม
เช้ายันค่ำยากจะคาดเดาสิ่งที่จะพบเจอ
ความอุดมสมบูรณ์อย่าพร่ำเพ้อ
ความเผอเรอเป็นหนทางแห่งความตาย
๏ ไม่เคยมีคนรวยมาเหลียวแล
จะมีก็แค่คนที่พอเอาตัวรอดได้
เวียนมาให้การอุปการะ
ชีวิตของแมว-หมาวัด
จึงเผชิญกับความอัตคัดไม่ขาดหาย
"
ชีวิตจริงไม่เหมือนนิยาย "
คือคำที่เหมาะจะนำมาใช้ในกรณีนี้ฯ
๒ พฤษภาคม ๒๕๖๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น