เมืองนักเลง : กลอนเจ็ด
๏ สายลม โถมถา
ราวบ้าคลั่ง......................กระทั่ง หลังคา หลุดผละหนี
ลูกเห็บ ฝนห่า
กระหน่ำกลี.........................เหมือนมี ผู้ไหว้ ร่ายเวทมนต์
๏ ชั่วครู่ สู่ความ
เงียบสงบ...........................พิภพ กลับคืน ชุ่มชื้นผล
พายุ ฤดูร้อน
ช่วยผ่อนปรน.........................หรือสร้าง ภัยล้น ท้นทลาย?
๏ แต่คน บางคน
สร้างท้นทุกข์......................ยังอยู่ เป็นสุข สนุกหมาย
ไม่เคย คิดมี
ที่จะละอาย.............................ไม่ขาย ขี้หน้า เพราะหนาเกิน
๏ (ที่)สำคัญ มันไร้
จิตสำนึก..........................ตรองตรึก ถูก-ผิด จิตเก้อเขิน
ปกติ ริยำ
ยังดำเนิน...................................เพลิดเพลิน ชีวิต ไร้ผิดมอง
๏ คือกมล สันดาน
เหล่าบรรดา.......................อาชญา กรโหด โฉดจองหอง
ตั้งตัว
ชั่วช่ำ หลงลำพอง.............................คะนอง ใจรัก ว่านักเลง
๏ โอ้อวด ศักดา
ข้ายิ่งใหญ่............................พอใจ ระราน พาลข่มเหง
ละเมิด กฎหมาย
ไร้ยำเกรง...........................ครื้นเครง เบ่งบ้า ค่านิยม
๏ แพร่หลาย ในประเทศ
ด้อยพัฒนา.................แลข้า ราชการ สามานย์สม
ผู้หลัก
ผู้ใหญ่ ในสังคม................................ภิรมย์ รกเกลื่อน ป่าเถื่อนคดี
๏ มโนธรรม บำเพ็ญ เห็นขอบเขต....................คนน่า สมเพช-พิเศษศรี
คนเลว
ระยำ-คนงามดี..................................ต่างที่ ศีลธรรม สำนึกเอยฯ
๖ เมษายน ๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น