ธรรมมีอยู่ที่ใจ : กลอนเจ็ด
๏ เร้นร่ม พรมพฤกษ์
ลึกแมกโมก.................ลมโบก โยกยิน วิญญาณ์สันติ์
ดอกโมก
กระจาย อายอัศจรรย์.....................สุคันธ์ จรรโลง โจงฤดี(โจง=รั้ง)
๏ สดชื่น รื่นรมย์
โสมนัส.............................ธรรมชาติ อัชฌา ธาราศรี
ปราศจาก มลทิน
มอมอินทรีย์.......................โสตถี พิพัฒน์ สุทัศไนย
๏ อกุศล กลไก
ทำให้จิต.............................เลือกเฟ้น เห็นผิด หลงพิสมัย
ตัณหา นานา
พัดพาใจ.................................เลื่อนไหล ไปจาก หลักศีลธรรม
๏ (ต่อให้)โกนผม ห่มผ้า
กาสาวพัสตร์............(แต่)ไม่หัด ขัดเกลา(ใจ) เปล่าเลิศล้ำ
พูดจา พาที
พีถ้อยคำ....................................เผยแผ่ แดดำ กรรมสามานย์
๏ ถึงใช้ ชีวา
ฆราวาส...................................สะอาด ฝึกจิต ใฝ่พิษฐาน
อบรม
อุรา ศีล-อาจาร....................................บันดาล สรรค์ศิษฏ์
วิจิตรา(ศิษฏ์=มีปัญญา)
๏ ธรรมะ จะมี
อยู่ที่ใจ...................................บ่ใช่ ภายนอก หลอกมุสา
สร้างภาพ
แต่งตน ล้นมารยา...........................ล่อแด แลประดา มิจฉาชน
๏ ใครทำ ใครได้
เข้าใจเถิด............................ประเสริฐ พสุ บุญกุศล
เอาเงิน
ซื้อหา ประสาคน................................มืดมน ปัญญา น่าเห็นใจ
๏ มิเว้น เป็นเหยื่อ
หลงเชื่อโปรด......................คนโฉด คณนา คล้อยสาไถย
คบกัน
เข้ากัน เพราะจัญไร(เหมือนกัน)..............ถูกใจ ถูกจิต อิฏฐาเอยฯ(อิฏฐ-=น่าปรารถนา)
๑๖ มีนาคม
๒๕๕๙
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น