พื้นฐานของความสัมพันธ์
: กลอนเปล่า
๏ คนอารมณ์ศิลป์
จึงมีจินตนาการสร้างสรรค์สวยงาม
คนปัญญาทราม
ไม่อาจเห็นความลึกล้ำของหัวคิดคน(อื่น)
คนโฉดฉล
มีสายตามืดมนจนไม่สามารถค้นพบคุณ-งามของความดี
คนราคะจัดบัดสี
ย่อมยินดีแต่ในกามว่างามกระสัน
๏ โลกนี้มีคนหลายหลากประเภท
ปฏิเสธไม่ได้ว่า
มากเหลือคณนามหาศาล
แค่ส่วนเล็กๆของจิตใจ
ก็ทำเกิดความแตกต่างอย่างอลังการ
ผสมผสานหลายด้านเข้าไป
ยิ่งทำให้กระจัดกระจายแยกย่อย
๏ แตกต่างทางความคิด
ต้นเหตุแห่งการมีชีวิตที่ต่างแตก
ความรู้สึกแปลกแยก
คอยแทรกสะกิดใจไม่เคยเสื่อมถอย
การคบหาปฏิสัมพันธ์
เป็นธรรมดาที่จะประสบกับการไม่ลงรอย
ค่านิยมที่สะสมมาทีละเล็กทีละน้อย
จะค่อยๆแบ่งแยก
แปลกไปให้หัวใจห่างไกลกัน
๏ ยิ่งเมื่อเติมความยโสโอหัง ดันทุรังหลงผิด
เพิ่มความทุจริตจิตสาไถย
ฤทัยเหิมฮึกหาญ
เสริมความชั่วช้าโฉดฉล
เอ่อล้นกระมลสันดาน
ยิ่งยวดอัประมาณการ
ทำลายความสัมพันธ์ให้ลาญบรรลัย
๏ ความเมตตาปราณีอารีเอื้อ
ความเชื่อต่อบุญกุศล
ว่าเป็นมงคลอดิศัย
ความเชื่อกฎแห่งกรรม
ถ้าหากกระทำอะไรลงไป
จะย้อนผลคืนตนได้
คือปัจจัยช่วยเชื่อมสมานสัมพันธ์อันดี
๏ การเว้นระยะห่าง ช่างเป็นสภาพที่มักมีให้เห็น
บ่อยครั้งยังจำเป็น
เพื่อเร้นไกลจากคนสาไถยใคร่บัดสี
แต่เงื่อนไขใหญ่
เกิดจากหัวใจที่ไม่นิยมยินดี
จะคบหาคนที่
ไม่มีผลประโยชน์ตอบแทน
หากประสบเข้ากับตัวในบางที
ก็อย่าสิดำริคับแค้น
อย่าถือเป็นแก่นสาร
แล้วจะได้พบพานชีวันสันติมีสุขเอยฯ
๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น