ความละอายใจ : กลอนแปด
๏ หัวจิตของ คนใด
ไคลหยาบด้าน....................ทรงสันดาน สุจริต พิสมัย
เมื่อทำผิด พลาดพลั้ง
ครั้งคราใด.........................ละอายใจ ในกมล ถกลมี
๏ ใช่เพียงแต่ ชั่วทำ
กรรมวาจา..........................แค่ความคิด พิจารณา ถ้าบัดสี
(จะ)รู้สึกผิด
จิตคล้าย ใจราคี...............................ไม่ยินดี ปรีดา ปราโมทย์ดล
๏ ความละอาย ในบาป
กำราบจิต........................ให้ยั้งคิด หยุดทำ กรรมอกุศล
ภูมิคุ้มกัน พาลช่อง
ผองพีรชน.............................ให้หลุดพ้น มลทิน ภินท์พิลัย
๏ (เป็น)คุณสมบัติ คนศรี
ที่ประเสริฐ.....................ก่อให้เกิด ดวงฤดี ที่ผ่องใส
ละอายบาป สาปชั่ว
กลัวโทษภัย...........................คุ้มครองให้ ไม่เกลียด เบียดเบียนกัน
๏ เหล่านรา ถ้าไร้
ละอายจิต................................คอยทุจริต คิดร้าย ใคร่โฉดฉันท์
เห็นแก่ตัว ชั่วช้า
สารพัน.....................................ชอบดึงดัน นันทะ หน้าด้านทน
๏ โลกคงมี แต่ทราม
กำซาบสิทธ์.........................คนทุจริต คิดชั่ว ทั่วทุกหน
จิตโหดร้าย เหลือสัตว์
อนาถชน...........................สร้างทุกข์ล้น ท้นโลก โศกเศร้าเยือน
๏ ครอบครัวคง บ้านแตก
สาแหรกขาด...................สังคมปราศ ปลอดภัย ประลัยเหมือน
ประเทศชาติ บัดซบ
สงบเชือน..............................มิคสัญญี สิเคลื่อน สะเทือนยิน
๏ พระคงเป็น เช่นผี
ล้นกิเลส...............................ข้าราชการ ปานเปรต ทุเรศสิ้น
เยาวชน สนแค่
แส่ราคิน......................................ทั้งแผ่นดิน ดิ้นเดือด
ด้วยเลือดนอง ฯ
๒๒ เมษายน ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น