มองโลกในแง่ดี/แง่ร้าย
: กลอนแปด
๏ มะยมสุก ลูกหล่น
กล่นเกลื่อนกลาด..........ตะขบดาษ ชาดสี มีดกหลาย
กระเล็นร้อง ก้องป่า
ร่าเริงราย......................ก่อนยามสาย กรายมา จึงลาจร
๏ เหล่านกเอี้ยง เสียงซ้อง
พ้องโต้ตอบ.........อยู่เรียงรอบ สุโข สโมสร
เป็นกิจจา อาจิณ
แผ่นดินดอน......................เอื้ออาทร สุนทรีย์ เปรมปรีดิ์ทาน
๏ (ฟ้า)ไม่มีเมฆ ไม่มี
ที่สบาย......................ตกตอนบ่าย อายแดด สิแผดผลาญ
ขนาดนั่ง อยู่ภาย
ในอาคาร..........................ยังร้อนจน ลนลาน เจียนบรรลัย
๏ คิดถึงคำ ทำนอง
มองแง่บวก...................แดดแผดลวก บวกมี เสียที่ไหน ?
เดี๋ยวผิวหน้า ฝ้าขึ้น
คิดชื่นใจ ?.....................กายเกรียมไหม้ ให้มอง ตรองด้านดี ?
๏ ประเทศชาติ ดาษดา
การทุจริต.................ยาเสพย์ติด การพนัน แพร่พันธุ์ผี
คนรุ่นใหม่ ใจมัก
ไม่รักดี..............................มองแง่ดี/แง่บวก สะดวกฤา ?
๏ ปัญหาหนี้ ครัวเรือน
สะเทือนหนัก..............เศรษฐกิจ ติดชะงัก ยากจักหือ
นโยบาย การเมือง
เคยเลื่องลือ.....................บัดนี้คือ ปัญหา สาหัสเป็น
๏ คนส่วนใหญ่ (ที่)มองโลก
ในแง่ดี..............(มัก)ใช้ชีวี ขี้เกียจ งานเดียดเห็น
เอาแต่หา ความสนุก
สุขใจเย็น......................ไม่รู้ร้อน รู้เข็ญ เล่นสบาย
๏ สภาวะ โลกร้อน
ยังย้อนว่า.......................เป็นปัญหา (เพราะ)มองโลก ในแง่ร้าย
เขารบรา ฆ่าฟัน
กันเกลื่อนตาย......................ยังสาธยาย แง่บวก ลวกๆตรอง
๏ จงยึดหลัก ธรรมะ
ไม่ประมาท...................รู้สามารถ คาดคะเน เภท์ภัยผอง
ภยันตราย ภายหน้า
จะเนืองนอง...................รู้จักมอง แง่ร้าย ก่อนสายเอย ฯ
๑๐ เมษายน ๒๕๕๘
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น