คนดีและโลกียธรรม : กลอนจรรโลงใจ
๏ โลกีย์ วิถีโลก
ปกติ.............................ตัณหา อุปธิ พิสมัย
อยากเสพ
อยากจักสม รมย์รื่นใจ..................อยากได้ ไม่รู้เบื่อ เหลืออาวรณ์
๏ " รูปรส และกลิ่นเสียง เพียงสัมผัส ".....หากนำ
มากำหนัด มัดจิตหลอน
ทุกขัง
อนิจจัง ดั่งละคร................................จงสละ สโมสร ถอนติดใจ
๏ อย่าหยาม กามราคะ ระวังกมล.............ฤทธิ์ล้น
สัญชาตญาณ บันดาลไส
สืบเผ่า
สำเนาพันธุ์ ชีวันไพ-..........................ศาลใน โลกใบนี้ โลกียธรรม
๏ " มีลาภ และเสื่อมลาภ " กลับไปมา......." ได้ยศ-เสื่อมยศถา " โลกาหน
" สรรเสริญ
และนินทา " เนื่องระคน..............." มีสุข-มีทุกข์ " วน ท้นชีวัน
๏ คนดี มีฤทัย
วิสัยทัศน์............................เข้าใจ ให้ถนัด อุบัติสันติ์
" เมื่อได้ " ไม่ลุ่มหลง พะวงมัน......................" สูญสิ้น " จินต์เท่าทัน สำคัญปลง
๏ ว่าเป็น โชคชะตา
ชีวาลิขิต....................เก่ากรรม มาตามติด ประสิทธิ์ส่ง
จึงได้
จึงเสื่อมสูญ จำรูญคง...........................หยัดอยู่ คู่โลกยง อสงไขย
๏ แม้แต่ ชีวาคน
ยังวนวัฏฏ์.......................เกิด-แก่-เจ็บ-ตายสัจ จะวิสัย
มรณา
พาทอดทิ้ง ทุกสิ่งไป..........................." โลกีย์ " ไม่มีใคร ได้ขืนครอง
๏ สุจริต เป็นทิศสร้าง
ทางแสวง................ศีลธรรม ทางสำแดง แรงสนอง
สัตย์ซื่อ
คือศรัณย์ แห่งครรลอง......................สันติ สิริต้อง ซ้องชีวัน
๏ คนดี มีความ" ดี" เป็นที่ตั้ง.....................ความ" ดี " มีพลัง ให้สร้างสรรค์
ทำ" ดี " ได้ผลดี
คืนชีวัน................................รส" ดี " นี้สุขสันติ์ นิรันดร ฯ
๕ กรกฎาคม
๒๕๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น