กาพย์ยานี ๑๑ : ฟ้าหลังฝน
ฝนพรำ ค่ำคืนนี้ เช้ายังมี พิรุณไหล
อึ่งอ่าง คางคกไกร แข่งเสียงก้อง ร้องระโรม
ชุ่มฉ่ำ กรำกอหญ้า กิ่งไม้ล้า พายุโหม
ย้อยอ่อน รอนแรงโทรม โน้มละห้อย ร่อยระอา
เมฆคล้ำ ร้องคำราม ฟ้าแลบลาม งามหนักหนา
แดดหาย ไร้อาภา โลกหม่นมืด หนาวชืดเย็น
พิราบ จับกิ่งเจ่า ดูสร้อยเศร้า เหงาหงอยเห็น
ท้องว่าง ช่างลำเค็ญ ไร้เรี่ยวแรง แกร่งกรรมการย์
อีแพรด ไม่แผดร้อง สิ้นทำนอง ก้องไพรสาณฑ์
เงียบเหงา ราวโลกลาญ แม้นสดชื่น ไม่รื่นรมย์
ดินชุ่ม อุ้มน้ำอิ่ม เหมือนแย้มยิ้ม พริ้มเสพสม
โขดหิน นิลเกลี้ยงกลม คละเหลี่ยมแหลม แต้ม..พนา
แสงเสก เมฆแยกห่าง สุรีย์รังค์ สว่างหรา
ส่องโลก วิโยค..ลา เย็นแสงทอง ผ่องอำไพ
นกแกร่ง มีแรงร้อง เริ่มทำนอง ซ้องสดใส
บ้างบิน โผผินไป หาอาหาร ชาญชีวัน
ชีวิต ต้องคิดสู้ อย่าหดหู่ มุ...ขยัน
ว่องไว ให้กาลทัน ขืนชักช้า จะเสียที
คิดสรรค์ อย่าฝันติด สัตจิต ผลิตสร้างศรี
คิดดี พูด-ทำดี กุศลส่ง สูงส่งเอย ฯ
๒๓ มีนาคม ๒๕๕๔
๒๓ มีนาคม ๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น