๏ ผิดหลัก ประชาธิปไตย.............................ตามเข้าใจ สมัยนี้
(เด็ก)ต้องกล้า กล่าววาที.........................(จึง)ชื่อว่ามี สติปัญญา
๏ (ในอดีต)ดื่มสุรา เที่ยวบาร์ผับ....................ต้องสดับ โดนตราหน้า
คือคน ฉลชั่วช้า......................................โดยเฉพาะถ้า เป็นผู้หญิง
๏ แต่ยุค สมัยนี้...........................................มวลสตรี มิประวิง
อ้างสิทธิ์ เสรียิ่ง.......................................ทำหลากสิ่ง เสมอชาย
๏ อยู่กิน โดยไม่แต่ง(งาน)...........................อยาก(ให้การ)ทำแท้ง ไม่ผิดกฎหมาย*
สำส่อน กันง่ายดาย..................................เสพสบาย ในกามารมณ์
๏ (ขนาด)ครองคู่ อยู่ก่อนแต่ง......................ยังขัดแย้ง มิสุขสม
หย่าร้าง สะพรั่งพรม.................................(เปลี่ยนคู่บ่อยๆ)ค่านิยม สังคมไทย
๏ (คน)คบกัน ทุกวันนี้.................................ไม่ดูที่ (เป็น)คนดีไหม?
เหตุเพราะ คนส่วนใหญ่............................บ่ใส่ใจ ใน(หลัก)ศีลธรรม(ตัวเองชั่ว จะเลือกคบคนดี?)
๏ ฐานะ(ดี) สิ่งประสงค์.................................เลือกเจาะจง ที่รวยร่ำ(เหยียดหยามความยากจน)
ชอบใจ ในหลักกรรม................................การทำตาม อำเภอใจ
๏ ผู้คน ทุกวันนี้...........................................เลือกวิถี คล้อยยุคสมัย
ดี-ชั่ว ช่างประไร.......................................สนใจแต่ เห็นแก่ตัวฯ
๑๙ เมษายน ๒๕๖๕
*กฎหมายใหม่ เปิดทางให้บุคคลทำแท้งได้ภายใน 12 สัปดาห์
โดยประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่แก้ไขใหม่ แตกต่างไปสองมาตรา คือ มาตรา 301 และมาตรา 305 ส่วนมาตราอื่นๆ ที่ไม่ได้แก้ไข จึงมีสาระสำคัญและบทลงโทษเท่าเดิม โดยสองมาตราที่แก้ไขแล้ว มีเนื้อหา ดังนี้
มาตรา 301 กำหนดให้หญิงทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ โดยที่ไม่เข้าเงื่อนไขอื่นๆ ตามมาตรา 305 มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จะเห็นได้ว่าอัตราโทษลดลงจากประมวลกฎหมายอาญาเดิม
มาตรา 305 เพิ่มเหตุยกเว้นความผิดแก่หญิงที่ทำให้ตนเองแท้ง หรือผู้ที่ทำให้หญิงแท้งโดยหญิงยินยอมไว้กว้างขึ้น หากเป็นการกระทำของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้กระทำไม่มีความผิด
(1) จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากหากหญิงตั้งครรภ์ต่อไปจะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนั้น
(2) จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมากหรือมีเหตุผลทางการแพทย์อันควรเชื่อได้ว่าหากทารกคลอดออกมาจะมีความผิดปกติถึงขนาดทุพพลภาพอย่างร้ายแรง
(3) หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าตนมีครรภ์เนื่องจากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ ประมวลกฎหมายอาญาเดิมก็กำหนดเหตุยกเว้นความผิดที่คล้ายกันไว้ แต่มีประเด็นปัญหาว่า คดีความผิดเกี่ยวกับเพศนั้นต้องมีการดำเนินคดีในกระบวนการยุติธรรมหรือไม่ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบเป็นภาระของหญิงที่จะทำแท้งว่า ต้องพิสูจน์ถึงการกระทำผิดดังกล่าวอันอาจส่งผลต่อจิตใจ ในมาตรา 305 (3) ใหม่จึงกำหนดเพียงให้หญิง “ยืนยัน” ด้วยตนเอง ก็จะไม่เป็นภาระต่อหญิงที่ต้องพิสูจน์ถึงการถูกกระทำทางเพศ
(4) หญิงซึ่งมีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ โดยการนับระยะเวลานั้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์รณกรณ์ บุญมี อาจารย์ประจำศูนย์กฎหมายอาญา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้อธิบายไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่านับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งล่าสุด
(5) หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกินสิบสองสัปดาห์ แต่ไม่เกินยี่สิบสัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมและผู้ประกอบวิชาชีพอื่นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของแพทยสภาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น
ทั้งนี้ กรณีตามมาตรา 305 (1) – (3) หญิงสามารถทำแท้งได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุครรภ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น