ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

เพื่อคนไร้ค่า : กลอนคติเตือนใจ


ลักษณะการเคลื่อนที่ของโลกในอวกาศ (เส้นสีฟ้าอ่อน)
ทรงกลมสีส้มสว่าง คือดวงอาทิตย์

เพื่อคนไร้ค่า : กลอนคติเตือนใจ

    ทำงาน พันตู อยู่กลางแจ้ง................................................ท่ามกลางแสง อาทิตย์ ที่อิดหนา

พร้อมฤดี มีสติ พิจารณา...................................................วิมังสา* ประกอบ รอบคอบไกร


    มองดูความ เคลื่อนย้าย (ของ)เงาชายคา............................(มอง)เห็นความเร็ว ของเวลา ว่า(เร็ว)แค่ไหน?

เร็วเสียจน มนฤดี ที่ว่าไว..................................................ยังตระหนก ตกใจ ตามไม่ทัน(คิดไม่ถึง)**


    สังขารอิง สิ่งบันเทิง เริงรื่นแส่...........................................ถึงจิตใจ ไม่ทันแก่ (สังขาร)ก็อาสัญ

คนปรานโปรด ความโฉดเขลา หลงเมามัน.....................หฤหรรษ์ ฝันใฝ่ ไม่เคยพอ***


    อายุขัย ใช้ไป อย่างไร้ค่า.................................................อกุศล กรรมา ตั้งตาก่อ

หลากเรื่องไร้ สาระ คิดบ้าบอ........................................ทุ่มเททรัพย์ จับจ่อ บ่เสียดาย

 

    บ้างกว่าจะ รู้ตน ล้นสำนึก.................................................เพิ่งรู้สึก ต้องแก้(ไข) แลก็สาย(เสียแล้ว)

แก่ชรา เจ็บไข้ ไม่สบาย...............................................รอถึงกาล วันตาย กรายมาเยือน


    วันนี้ ยังมีแรง ควรแข็งขัน...................................................มุ่งมั่น อุตสาหะ อย่าให้เหมือน

คนที่ไร้ สาระ ชีวะเลือน...............................................ฉกาจเกลื่อน กิจกรรม ทรามปัญญา

 

    (คน)อยู่-กิน-ใช้ (โดย)ทำลายทรัพย์ จากธรรมชาติ................ที่(แทบ)ไม่อาจ หวนคืน ผืนดิน-ฟ้า

ธรรมชาติ เสียหาย เพื่อให้นรา......................................ที่ไร้ค่า ลางคน ชนม์ชีพยัง

 

    คุณค่า ธรรมชาติที่ มิอาจนับ...............................................แลกกับ คนอัปรีย์ ไม่มีหวัง

อยู่ไป ก็ไร้ประโยชน์ ปรากฏดัง.....................................คุมขัง นักโทษต่อ รอวันตาย(รอประหาร)ฯ


๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔


*พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)

[213] อิทธิบาท 4 (คุณเครื่องให้ถึงความสำเร็จ, คุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จแห่งผลที่มุ่งหมาย )
       1. ฉันทะ (ความพอใจ คือ ความต้องการที่จะทำ ใฝ่ใจรักจะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอ และปรารถนาจะทำให้ได้ผลดียิ่งๆ ขึ้นไป)
       2. วิริยะ (ความเพียร คือ ขยันหมั่นประกอบสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน เอาธุระไม่ท้อถอย)
       3. จิตตะ (ความคิด คือ ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำและสิ่งนั้นด้วยความคิด เอาจิตฝักใฝ่ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป)
       4. วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง คือ หมั่นใช้ปัญญาพิจารณาใคร่ครวญตรวจตราหาเหตุผลและตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนในสิ่งที่ทำนั้น มีการวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง เป็นต้น)


** โลกเราหมุนไปรอบดวงอาทิตย์ ในขณะที่ดวงอาทิตย์พาโลกหมุนไปรอบกาแล็กซี กาแล็กซีก็เคลื่อนที่ไปในเอกภพ ทุกวินาทีเราจึงไม่ได้อยู่ที่เดิม และไม่เคยกลับมาที่เดิม

    เวลา 24 ชั่วโมง(1 วัน) เป็นเวลาคร่าวๆที่โลกหมุนรอบตัวเอง 1 รอบ (แต่ละวันเร็ว-ช้าไม่เท่ากัน)

    ที่เส้นศูนย์สูตร โลกหมุนด้วยความเร็วประมาณ 40,200 หารด้วย 24 = 1,675 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


*** พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕

มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์

เราเห็นมนุษย์ทั้งหลายในโลก ที่เป็นผู้มีทรัพย์ ได้ทรัพย์แล้วย่อมไม่ให้เพราะความหลง 

โลภแล้วย่อมทำการสั่งสมทรัพย์ และยังปรารถนากามทั้งหลายยิ่งขึ้นไป 

พระราชาทรงแผ่อำนาจชำนะตลอดแผ่นดิน ทรงครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นที่สุด

มิได้ทรงรู้จักอิ่มเพียงฝั่งสมุทรข้างหนึ่ง ยังทรงปรารถนาฝั่งสมุทรข้างโน้นอีก 

พระราชาและมนุษย์เหล่าอื่นเป็นอันมาก ยังไม่สิ้น ความทะเยอทะยาน 

ย่อมเข้าถึงความตาย เป็นผู้พร่องอยู่ ละร่างกาย ไปแท้

ความอิ่มด้วยกามย่อมไม่มีในโลกเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น