ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันศุกร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

พูดง่ายแต่ไม่ทำ : กาพย์ยานี๑๑



พูดง่ายแต่ไม่ทำ : กาพย์ยานี๑๑


    หลักนำ หลายสำนัก...................................นิยมมัก ชักชวนหมาย

ถ่าย(ทอด)กัณฑ์ ธรรมบรรยาย..................โน้มเลื่อมใส ใจศรัทธา


    บอกเล่า ราวบรรลุ......................................ธรรมเอกอุ สู่เทศนา

สร้างภาพ สรรพโสภา..............................ลาภ-สักการ์ ปองเจริญ


    ฉาบฉวย ด้วยจริต......................................บ่ชอบพิศ คิดผิวเผิน

ธรรมทัศน์ ขาดๆเกินๆ..............................แค่ฟังเพลิน สรรเสริญไกร

 

    (พูด)ถูก-ผิด ไม่พิจารณา............................มอบศรัทธา มาเลื่อมใส

เงินทอง ปองกายใจ................................ยอมถวาย ใคร่อุปฐาก


    การพูด พิสุทธิ์(ธรรม)ง่าย..........................ทำให้คล้าย(คำพูด) ละม้ายยาก

แสดงธรรม ลึกล้ำหลาก...........................แต่ส่วนมาก ล้วนผลักไส(ไม่ทำตามคำพูด)

 

    คำพูด (เรื่อง)ความหลุดพ้น........................ได้ยินจน จำขึ้นใจ

แต่(การ)กระทำ สิทำไม...........................ยังหลงใหล ในโลกีย์

 

    ธรรมไซร้ มีไว้พูด......................................ท้าพิสูจน์ วิมุตติศรี(วิมุตติ=ความหลุดพ้น)

ผู้ใด ในปัถพี..........................................ละยินดี โลกียธรรม?


    ยังคง หลงลาภยศ.....................................สักการฯลฯจด จ้องโปรดล้ำ*

สนใจ วินัยธรรม.....................................เพียงคำพูด ที่สุดเลยฯ


๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๔


*คนพวกนี้ส่วนใหญ่ จะมีพื้นฐานครอบครัวที่ฐานะยากจน ชีวิตยากลำบากมาก่อน

บางคนก็พอมีบ้างแต่ไม่มาก คิดโลภมาก-มักง่าย มุ่งหมายมาหากินกับผ้าเหลือง

บวชมาก็เพื่อจะได้หาความร่ำรวย ยศถาบรรดาศักดิ์ มีคนกราบไหว้เคารพ มีชีวิตที่สุขสบาย

มิได้เข้าใจหรือสนใจที่จะปฏิบัติตามหลักธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจังเลย แค่ทำพอเป็นพิธี-ผิวเผิน-ฉาบฉวย

ผู้ที่เข้าใจหลักธรรมวินัย ลองสังเกตจะเห็นได้ไม่ยากว่า

คนพวกนี้แค่ชอบพูด-แสดงกิริยาท่าทางให้ดูน่าเลื่อมใส แต่การดำเนินชีวิต-การกระทำกิจต่างๆ จะไม่สอดคล้องกับธรรมวินัยและคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า หนักไปทางทำตามความนิยมชมชอบส่วนตัว ผสมผสานกับค่านิยมของสังคม เพราะเมื่อเป็นที่ชื่นชอบจากสังคม ก็จะหาลาภสักการะได้มากมายและง่ายดาย

มีไม่น้อยที่ฝักใฝ่ทางไสยศาสตร์ เพราะคนงมงายไสยศาสตร์มีมาก เป็นคนส่วนใหญ่ในสังคมเสียด้วยซ้ำ

แต่ก็ยังเรียกตัวเองว่าเป็นพระสายปฏิบัติ ชอบตั้งสำนักอยู่ในป่า บ้างก็บุกรุกทำลายป่า สร้างสิ่งปลูกสร้างใหญ่โตอลังการ โดยเฉพาะประเภท"ที่สุดในโลก" ล่อใจให้คนมาเที่ยวจะได้รับลาภสักการะล้นเหลือ.


                                     พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
สังขิตตสูตร
[๑๔๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่า มหาวัน ใกล้พระนครเวสาลี ครั้งนั้นแล พระนางมหาปชาบดีโคตมีเสด็จเข้าไป เฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วประทับยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระ- *วโรกาส ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อแก่หม่อมฉัน ซึ่งหม่อมฉันได้ฟัง แล้ว จะพึงเป็นผู้หลีกออกจากหมู่อยู่ผู้เดียว ไม่ประมาท มีความเพียร มีใจเด็ด เดี่ยวอยู่เถิด ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรโคตมี ท่านพึงรู้ธรรมเหล่าใดว่า ธรรมเหล่านี้ เป็นไปเพื่อความกำหนัด ไม่เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด เป็นไปเพื่อประกอบ สัตว์ไว้ ไม่เป็นไปเพื่อพรากสัตว์ออก เป็นไปเพื่อสั่งสมกิเลส ไม่เป็นไปเพื่อไม่สั่ง สมกิเลส เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักมาก ไม่เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย เป็น ไปเพื่อความไม่สันโดษ ไม่เป็นไปเพื่อความสันโดษ เป็นไปเพื่อความคลุกคลีด้วย หมู่คณะ ไม่เป็นไปเพื่อความสงัด เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน ไม่เป็นไปเพื่อ ปรารภความเพียร เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงยาก ไม่เป็นไปเพื่อความเป็นคน เลี้ยงง่าย ดูกรโคตมี ท่านพึงทรงจำไว้โดยส่วนหนึ่งว่า นี้ไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสั่งสอนของพระศาสดา ฯ ดูกรโคตมี ท่านพึงรู้ธรรมเหล่าใดว่า ธรรมเหล่านี้เป็นไปเพื่อคลาย กำหนัด ไม่เป็นไปเพื่อความกำหนัด เป็นไปเพื่อไม่ประกอบสัตว์ไว้ ไม่เป็นไป เพื่อประกอบสัตว์ไว้ เป็นไปเพื่อไม่สั่งสมกิเลส ไม่เป็นไปเพื่อสั่งสมกิเลส เป็น ไปเพื่อความเป็นผู้มักน้อย ไม่เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มักมาก เป็นไปเพื่อสันโดษ ไม่เป็นไปเพื่อไม่สันโดษ เป็นไปเพื่อความสงัด ไม่เป็นไปเพื่อความคลุกคลีด้วย หมู่คณะ เป็นไปเพื่อปรารภความเพียร ไม่เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน เป็นไปเพื่อ ความเป็นคนเลี้ยงง่าย ไม่เป็นไปเพื่อความเป็นคนเลี้ยงยาก ดูกรโคตมี ท่านพึง ทรงจำไว้โดยส่วนหนึ่งว่า นี้เป็นธรรมเป็นวินัย เป็นคำสั่งสอนของพระศาสดา ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น