คนประเสริฐ : กลอนเจ็ด
๏ เสียงลม พายุ
พัดหมู่ไม้.......................ฟังคล้าย ไร้ความ ลำเค็ญขืน
ฝนโปรย ปรายพร่ำ
ยามค่ำคืน..................ชุ่มชื่น พิสุทธิ์ ดุษฎี
๏ กลิ่นอาย สายฝน
ดลศานติ....................เมื่อมิ ประสงค์ หลงวิถี
ก้าวข้าม อำนาจ
บาศโลกีย์......................ไม่มี ตัณหา มาผลักดัน
๏ ธรรมชาติ นาฏกรรม
นำนิโรธ..................ประโยชน์ โปรดเย็น เป็นสุขสันติ์(นิโรธ=ไม่มีรส)
ความสงบ ระงับ
ดับโลกธรรม์...................ชีวัน พลันอิ่ม ปริ่มเปรมใจ
๏ อนิจจัง พรั่งพรม
บรมเกศ.......................รู้เหตุ รู้ผล กลเงื่อนไข
ความมี ความเร้น
แลเป็นไป.....................เกิดใน โลกธาตุ สัจธรรม
๏ ความไม่ ยึดมั่น
ไม่ถือมั่น.......................อัตตา มมังการ มานเลิศล้ำ
สุจริต คิดให้
ใคร่กระทำ..........................ทุจริต ผิดกล้ำ มิจำนน
๏ มิห่วง อาลัย
ในชะตา............................ชีวา อนาคต ปรากฏผล
เมื่อเข้า ใจกฎ
แห่งกรรมกล.....................ชั่ว-ดี มิพ้น ตนก่อเวร
๏ สัจจา ประจักษ์
เป็นหลักฐาน..................ความอยาก ทะยาน ทัณฑ์โทษเห็น
อนัตตา สลด
หมดมี-เป็น........................ย่อมเร้น ระงับ ดับดิ้นรน
๏ กิเลส ตัณหา
ตกตะกอน........................ไถ่ถอน ร้อนเศร้า เร่าโศกสน
สิริ
พิสัย พรายกระมล.............................ของคน ล้นเลิศ ประเสริฐเอยฯ(พราย=แวววาว)
๒๙ กันยายน ๒๕๖๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น