น้ำฝน น้ำใจ : วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
๏ ห้วงแห่งฤดูอุษณะกาล..............ทิวะวาร
ทะยานร้อน
ลมหยุดขยับพนะอวรณ์....................ระอุผ่าว
ก็เข้าพก (วรณ์=การป้องกัน)
๏
แผ่นพื้นวลาหกะละล่อง.............นภป้อง ประจิมปก (วลาหก=เมฆ)
บังอัศดงสุริยะยก............................รุจิลับ
ขยับลา (รุจิ=แสงสว่าง)
๏
ดั่งผืนพิพัสตระสะคราญ.............ดุจะม่าน พิมลมา (พัสตร์=ผ้า)
ปิดฉากเชวงชุณหะครา....................จระคลุ่ม
ประชุมครัน (เชวง=รุ่งเรือง,ชุณห=สว่าง,จระคลุ่ม=มืด)
๏
ฟ้าวาบสว่างอสุนิบาต...............วิช์ชุนาฏ วิจลนันท์ (วิชชุ=สายฟ้า)
กึกก้องสกลสระสนั่น........................พสุธา
สะเทือนไหว ( สร=เสียง)
๏
โปรยปรายพิรุณภฤศะริน.............ทละติณ ประทินไตร (ภฤศ=มาก,ทละ=ใบไม้)
พฤกษาขจีสุขินะใคร่.........................รตะรำ
ระบำเริง (สุขิน=สุข,รตะ=สบาย)
๏
โลกมีพิรุณมิดุลยา......................ทุพะภา วะยากเยิง (เยิง=ป่าเถื่อน)
น้ำฝนมิเฟื้อทระเถลิง.........................ผิกระเจิ่ง
กว่าน้ำใจ
๏ โลกแล้งมโนชละซะกว่า...............อนะอา
รยาศัย (อน+อารยะ+อาศัย)(อน-=ไม่)
ราตรีมิดำทุระกระไร............................ตละเช่น
กมลชน (ตละ=เช่นกัน)
๏
น้ำใจเสมือนสริตะนอง...................วสุกอง ตระกัดดล (สริต=แม่น้ำ,วสุ=กรุณา,ตระกัด=ใคร่)
น้ำใจประดุจวิสุทธ์ฝน...........................ปริรม
ชะกันดาร ฯ(ปริรม=ยินดี)
๒๒ เมษายน ๒๕๕๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น