ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2563

การตลาดศาสนา : กลอนสะท้อนวงการศาสนา



การตลาดศาสนา : กลอนสะท้อนวงการศาสนา

    การตลาด ศาสนา.............................................พุทธพา ญิชย์พิษฐาน
มิได้มุ่ง หมายนิพพาน......................................ลาภ-สักการ พล่านเพลินจินต์

    เน้นอุปสงค์ สังคมโลกย์.....................................(ความต้องการของ)ผู้บริโภค ยกถวิล
ให้บริการ(ต่างๆนานา) (เพื่อ)ดาลชีวิน(ตน)...........อยู่ดี-กิน ดีปรีดา

    กิเลสตัณหา มิซาสร่าง.......................................แค่"พุทธ"พราง (ยก)ขึ้นบังหน้า
กิจดำเนิน ด้วยเงินตรา(รายจ่าย).........................(จึงต้องออก)อุบายหา(รายได้) เป็นประจำ

    ทั้งมิใช่ และไสยศาสตร์.....................................(ใช้วิถีทาง)การตลาด ประกาศล้ำ
หากเปรียบเทียบ พฤติกรรม...............................ล้วนก้าวข้าม ธรรมวินัย(ที่ไม่รับ-ใช้เงินฯลฯ)

    เพียงเปลือกนอก บอกเป็น"พุทธ"........................ความพิสุทธิ์ หามีไม่
กิจวัตรแล แปรเปลี่ยนไป...................................เพื่อรับใช้(สังคม)* ไร้เกี่ยงงอน(ทำกิจกรรมในแบบที่สังคมชอบ เช่น ร้องเพลง บรรเลงดนตรีฯลฯ ซึ่งผิดศีลของพระเณร)

    แม้ศึกษา พระไตรปิฎก......................................ก็เพื่อยก มาสั่งสอน(คนอื่น)
แต่ตัวข้า มิอาทร.............................................ขาดสังวร ทั้งกาย-ใจ

    อริยสัจ ฮึดฮัดท่อง...........................................สิสอดส่อง ประพฤติ(ตาม)ไม่
สิ่งใดที่(ทำแล้ว) มี(คน)เลื่อมใส.........................มุ่งทำไป ไม่ครณา(แม้ว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์)

    เน้นปริมาณ** และการตลาด..............................(เป็น)วิปลาส พุทธศาสนา
หวัง(สังคม)เจือจุน หนุนเงินตรา..........................สมตัณหา โลภะเอยฯ

๒๒ เมษายน ๒๕๖๓

*
ต้องเข้าใจก่อนว่า
พระพุทธเจ้าประกาศศาสนาพุทธ ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อมารับใช้สังคม เพื่อให้บริการสังคม หรือสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ-การเมือง
เป้าหมายของศาสนาพุทธ คือ เพื่อพาคน บรรลุนิพพาน ความพ้นทุกข์ ความหลุดพ้นวัฏสงสาร ฯลฯ
ไม่มีเป้าหมายทางโลก
หลักธรรมวินัย ล้วนสนับสนุนให้มุ่งไปสู่เป้าหมายทางธรรม ไม่ใช่ทางโลก
ดังนั้น การที่มีใครบางคน ชอบเรียกร้องให้ศาสนาพุทธต้องให้บริการสังคม-แก้ปัญหาสังคม-สังคมสงเคราะห์ สร้างสรรค์กิจกรรมที่สังคมต้องการ เช่น ด้านการศึกษา-สังคม-เศรษฐกิจ-การเมือง จึงเป็นความคิดของคนที่ไม่รู้จัก ไม่เข้าใจ ในธุระ-หน้าที่ของศาสนาพุทธ-กิจของสงฆ์

พิสูจน์ให้เห็นได้จากคำสอนของพระพุทธเจ้า
ที่ห้ามพระสงฆ์พูดคุยเรื่องอื่นๆนอกจากธรรมวินัย ทรงเรียกเรื่องอื่นๆเหล่านั้นว่าเป็น "ดิรัจฉานกถา"
".....ดูกรภิกษุทั้งหลาย การที่เธอทั้งหลายสนทนาดิรัจฉานกถาเป็นอันมาก คือ สนทนาเรื่องพระราชา เรื่องโจร เรื่องความเจริญและความเสื่อมนี้ ฯลฯ ไม่สมควรแก่เธอทั้งหลายผู้เป็นกุลบุตรออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธาเลย..."
From <https://84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=24&A=3064&Z=3116>

**
เน้นปริมาณ ได้แก่ การให้ความสำคัญกับจำนวน เช่น จำนวนพระเณร จำนวนสาขาของวัด จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม ยอดเงินบริจาค ฯลฯ
โดยไม่ใส่ใจเรื่องประสิทธิภาพ-ประสิทธผลของกิจกรรม เพราะตัวผู้ดำเนินการเองก็ไม่มีคุณภาพ ทำอะไรก็ไร้ประสิทธิผล สักแต่ว่าได้ประกาศว่า ได้ประกอบกิจกรรม ทำไปพอเป็นพิธี พอให้พูดได้ว่ามีผลงาน ซึ่งมักเป็นผลงานทางโลก-ทางสังคม
เนื่องจากปกติก็ไม่ได้สนใจจะปฏิบัติตามธรรมวินัยอยู่แล้ว
มีไม่น้อยที่ประพฤตินอกรีต ทำกิจกรรมที่ไม่สมควรแก่ความเป็นพระ หรือแม้แต่สถานะพุทธศาสนิกชน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น