ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2563

ความหมายของ"ความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ" : กาพย์ยานี๑๑



ความหมายของ"ความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ" : กาพย์ยานี๑๑

    คืนวาน ฉันไปห้าง(ซื้อของ)................................ที่แทบร้าง ไร้ผู้คน
โควิด(19) วิกฤติดล.....................................แลหลังผล คำสั่งรัฐ(พรก.ฉุกเฉิน)

    (เพราะ)ผู้คน ขยาดกลัว.....................................ติดเชื้อทั่ว ป่วยสาหัส
วิถี ปฏิบัติ..................................................ชีวาวัตร ปราดเปลี่ยนใช้

    วิกฤติใด ในโลกา..............................................ฤาแกร่งกล้า เทียมโรคภัย?
ทุกคน ล้นคิดใคร่........................................กลัวตายเห็น เป็นปฐม

    (ความ)ไม่มี โรคคือลาภ...................................(อัน)ประเสริฐทราบ ทุกสังคม
(แต่)พุทธา ค่านิยม......................................วิกรมธรรม แผกความหมาย

    โรคฤา คือขันธ์๕.............................................ที่เติบกล้า แล้แตกตาย
(ผู้คน)ยึดมั่น มุ่งขวนขวาย.............................ให้อายุ มั่นขวัญยืน

    ความยึด มั่นถือมั่น............................................ต่อสังขาร ทุกวันคืน
มิอยาก ให้เป็นอื่น(วิภวตัณหา).......................อยากระรื่น ชื่นสุขสม(ภวตัณหา)

    ตัณหา อุปาทาน...............................................ดลบันดาล ทุกข์โศกตรม
จงอย่า อภิรมย์............................................นิยมถือ คือของเรา

    คนใด ไคลคลาได้............................................ย่อมสิ้นไร้ ความโง่เขลา(อวิชา)
โรคสร่าง ทุกข์บางเบา..................................เข้า(สู่)นิพพาน สันติเอยฯ

๒ เมษายน ๒๕๖๓

*
มาคัณฑิยะ เราก็ฉันนั้นเหมือนกัน หากจะพึงแสดงธรรมแก่ท่านว่า
‘ความไม่มีโรคนั้นคืออันนี้ นิพพานนั้นคือนี้’
ท่านนั้นจะพึงรู้ความไม่มีโรค จะพึงเห็นนิพพานได้ ท่านก็จะละความพอใจและความยินดีในอุปาทานขันธ์ ๕ ประการ
พร้อมกับเกิดดวงตาคือปัญญาขึ้น
อนึ่ง ท่านจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ‘ท่านผู้เจริญ เราถูกจิตนี้ล่อลวงให้หลงผิดมานานแล้ว
เราเมื่อยึดมั่นก็ยึดมั่นเฉพาะรูป เฉพาะเวทนา เฉพาะสัญญา เฉพาะสังขาร และเฉพาะวิญญาณเท่านั้น
เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมีแก่เรา เพราะภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี เพราะชาติเป็นปัจจัย
ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส อุปายาสจึงมี
ความเกิดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้”

จาก <http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=13&siri=25>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น