ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

บำเพ็ญตบะ : กลอนธรรมะ


บำเพ็ญตบะ : กลอนธรรมะ

ขนฺติ ปรมํ ตโป ตีติกฺขา (ที.มหา. ๑๐/๕๗ ขุ.ธ ๒๕/๔๐)
" ขันติ ความอดทน เป็นตบะ (เครื่องเผากิเลส) อย่างยิ่ง

    การปรับเปลี่ยน ความเคยชิน.....................(ที่เคย)ทำอาจิณ ชีวินนิสัย
ต้องกล้ำกลืน ฝืนหทัย...............................ขัดขืนใจ ไม่ผ่อนปรน

    เมื่อคนเรา มีเป้าประสงค์...........................เจตจำนง ตรงต่อผล
ปริวัฒน์ พัฒนาตน....................................เพื่อล่วงพ้น สิ่งต่ำทราม

    เริ่ม(จากการ)คิดดี มีความรู้........................พร้อมจะสู้ มิเกรงขาม
(ความ)ทุกข์ยากใด ใน(ขณะ)พยายาม..........กระทำตาม ธรรมอดทน

    ขันติฤา ก็คือ"ตบะ"...............................ช่วยชำระ เกลศล้น
สัญชาตญาณ สัญญาณยล.........................ฝึกกระมล ดีเพียงใด

    ดวงมนัส เมื่อทัศนา.................................มี(ปกติ)ธรรมดา เหมือนน้ำไหล
มุ่งลงต่ำ ตามพฤตินัย................................สัตว์วิสัย ใคร่โลกีย์

    การฝืนใจ จึง(สร้างความ)ไม่สะดวก............(อย่า)ทำลวกๆ ทอดวิถี
ย่อหย่อนยาน มานฤดี...............................ย่อมไม่มี ผลบริบูรณ์

    (จง)ทำความดี เป็นนิสัย...........................สร้างวินัย ไม่เสื่อมสูญ
คอยเอื้อเฟื้อ หมั่นเกื้อกูล..........................(ทำให้)มโนธรรมพูน เพิ่มทวี

    (จะ)อยู่ร่มเย็น เป็นสุขะ............................(เพราะ)บำเพ็ญตบะ ไม่ผละหนี
บาปร้างไร้ เวร(กรรม)ไม่มี.........................ประเสริฐศรี ชีวาเอยฯ

๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

*[๒๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษของความไม่อดทน ๕ ประการนี้
๕ ประการเป็นไฉน คือ
ผู้ไม่อดทนย่อมไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของคนเป็นอันมาก ๑
ย่อมเป็นผู้มากด้วยเวร ๑
ย่อมเป็นผู้มากด้วยโทษ ๑
ย่อมเป็นผู้หลงกระทำกาละ ๑
เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลาย โทษของความไม่อดทน ๕ ประการนี้แล ฯ

ดูกรภิกษุทั้งหลาย อานิสงส์ของความอดทน ๕ ประการนี้
๕ ประการเป็นไฉน คือ
ผู้อดทนย่อมเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของคนเป็นอันมาก ๑
ย่อมเป็นผู้ไม่มากด้วยเวร ๑
ย่อมเป็นผู้ไม่มากด้วยโทษ ๑
ย่อมเป็นผู้ไม่หลงกระทำกาละ ๑
เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ๑
ดูกรภิกษุทั้งหลายอานิสงส์ของความอดทน ๕ ประการนี้แล ฯ
จาก <http://www.84000.org/tipitaka/read/v.php?B=22&A=5938&Z=5949>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น