ธรรมกวี :
กลอนจรรโลงใจ
๏ ฤดูหนาว
คราวนี้ ลี้ลับแน่...............................ตกค่ำแค่ แอร์ต้องเปิด
ร้อนเชิดฉันท์
ปริวิตก
เริ่มเข้า กุมภาพันธ์..................................(ร้อน)ระอุกัน ปานเมษาฯ
กระวนกระวาย
๏ บทกวี
มีนิรุตติ์ หมุดเริ่มต้น.............................ร้อยเรียงจน ถึงจุด
ที่สุดท้าย(นิรุตติ=ภาษา,คำพูด)
นักประพันธ์ วรรณนา นวนิยาย.............................มี(บท)อวสาน มั่นหมาย เมื่อปลายทาง(วรรณนา=พรรณนา)
๏ คิดคะนึง ถึงครัน วันข้างหน้า..........................กาลเวลา
หาสะดุด หยุดเยื้องย่าง
แต่ชีวิต ของกวี มี(วัน)เลือนราง...........................เมื่อแสงสว่าง(แห่งปัญญา)
ลับลง คง(ต้อง)วางมือ
๏ (แต่)ณ
วันนี้ (การแต่ง)กวีเป็น เช่นโอสถ..........มธุรส อัชฌา วิญญาณ์ยื้อ(อัชฌา=กิริยาดี)
กาย-วาจา-จิตใจ
ได้ฝึกปรือ................................จริยธรรม ค้ำถือ คือธงชัย
๏ บันเทิงความ
งามดี ถึงที่สุด...........................จวบชีวา มนุษย์ จะหาไม่
มิมุ่งหวัง
พรั่งผล ประโยชน์ใด.............................นอกจากได้ บุญกุศล ด้นชัชวาล
๏ ธรรมกวี
มีค่า หาเทียบได้(เทียบค่าไม่ได้).........บ่คิดเขลา เอาไปขาย หมายอาหาร
หรือแลกเปลี่ยน
เป็นทรัพย์สิน ศฤงคาร.................ทะเยอทะยาน ป้อยอ ต่อผู้คน
๏ มิถือเอา
อารมณ์ เป็นที่ตั้ง.............................รู้ยับยั้ง ชั่งใจ ใช้เหตุผล
ศีล-สมาธิ-ปัญญา
สิกขาดล................................เพียรขจัด อกุศล พ้นกาย-ใจ
๏ ปฏิบัติ
ขัดเกลา เผากิเลส..............................ชำระเจต เฉทอกุศล มลทินไส
ประสบการณ์
ผ่านตรง จรรโลงฤทัย......................ร้อยบทเรียน จำเนียนไหว ในธรรมกวีฯ
๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น