ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ดราม่าเสียงระฆัง : กาพย์ยานี๑๑





ดราม่าเสียงระฆัง : กาพย์ยานี๑๑

    ดราม่า เสียงระฆัง...........................เกิดโด่งดัง กลางวรรษา
(คน)ส่วนใหญ่ รุมไล่-ด่า.....................หญิงผู้กล้า มาร้องเรียน(เสียงระฆังทำให้นอนไม่หลับ)

    (อ้าง)สร้างมา สามร้อยปี...................วัดจึงมี สิทธิเสถียร
ห้ามใคร มาแปลงเปลี่ยน.....................ประเพณี แปลก-วิการ

    ตีสี่ ตีระฆัง......................................ต้องทนฟัง บังคมศานติ์
สามสิบ นาทีนาน...............................ห้ามทัดทาน ลดทอนลง

    ครรลอง ต้องคงอยู่...........................ไม่ต้องดู วัตถุประสงค์
(ตีระฆังเพื่อ)เตือนพระ ตระเตรียมองค์.....ทำวัตรเช้า เท่านั้นเอง

    มองข้าม ธรรมวินัย............................สงบวิสัย ไม่เพียรเพ่ง
ตี(ระฆัง)กัน เหมือนบรรเลง...................เพลงเสนาะ เคาะประโคม

    การทำ วัตรเช้า-เย็น...........................ที่มุ่งเน้น เช่นกิจโหม
ปลูกฝัง ทั้งพระ-โยม............................มิปรากฏ ในบทธรรม(วินัย)

    ที่นั่ง ที่นอนสงัด................................หลักปฏิบัติ (พุทธ)โอวาทย้ำ
มีใคร สนใจจำ?..................................สำคัญความ สมถะ(สมถะ=ความสงบจิต,ความมักน้อย)

    วัดส่ง เสียงดังลั่น..............................คนพากัน เข้าข้างพระ
ผับบาร์ ทำบ้างล่ะ?.............................(คน)เห็นใจพระ ถูกระราน

    สังคม อุดมเขลา................................ความมัวเมา คือสัณฐาน(สัณฐาน=ลักษณะ)
ขาด วิ จารณญาณ..............................อันธพาล มานมืดมนฯ

๕ ตุลาคม ๒๕๖๑

*โอวาทปาฏิโมกข์(แปล)
 
สพฺพปาปสฺสอกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทธาน สาสนํฯ
* ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา
นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา
น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี
สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโตฯ
* อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร
มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ
อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธาน สาสนํฯ

การไม่ทำความชั่วทั้งปวง ๑ 
การบำเพ็ญแต่ความดี ๑
การทำจิตของตนให้ผ่องใส ๑
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง
พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า นิพพานเป็นบรมธรรม
ผู้ทำร้ายคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต
ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ

การไม่กล่าวร้าย ๑ 
การไม่ทำร้าย ๑ 
ความสำรวมในปาฏิโมกข์ ๑
ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร ๑ 
ที่นั่งนอนอันสงัด ๑
ความเพียรในอธิจิต ๑
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย 

From <http://larndham.org/index.php?/topic/24879-%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%8C-%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B9%83/page__st__2>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น