คนวิเศษ : กลอนจรรโลงใจ
๏ เสียงฝีเท้า เหล่าใบไม้
หรือไรนั่น?....................วิ่งแข่งกัน กับสายลม ระบมหนาว
พฤศจิกาฯ ราตรี
มีหมู่ดาว................................ส่องสกาว วาววับ งามจับใจ
๏ ความมืดมิด ขีดเขียน
เกษียนสงบ.....................สุขประสบ ลบรอย พร้องด่างไร้(เกษียน=เขียน)
กลางคืนต่าง กลางวัน
เฉกฉันใด.......................คนแตกต่าง ห่างไกล ได้เช่นกัน
๏ ผู้ซื่อสัตย์ มนัสวี
ฤดีแกร่ง................................ความเข้มแข็ง แต่งเติม
เหิมหฤหรรษ์(มนัสวี=ผู้มีใจเด็ดเดี่ยว)
ท่ามกลางหมู่ ทุรชน
มลอนันต์..........................ยังมุ่งมั่น หยัดยง ทรงสัจจา
๏ ผู้ไม่เบียด เบียนใคร
ใจเก่งกาจ.........................ทระนง องอาจ ปรารถนา
คนยิ่งใหญ่ ใจกว้าง
มิร้างรา..............................เปี่ยมเมตตา ปราณี มีมโนธรรม
๏ ผู้เสียสละ เพราะกระมล
ล้นบริบูรณ์....................อนาดูร ทูนเทิด เลิศอุปถัมภ์(อนาดูร=ไม่เดือดร้อน)
คนเผื่อแผ่ แลแบ่งปัน
ธารณ์ประจำ.....................ย่อมล่วงล้ำ พ้นคับข้อง พร่องอำไพ(ธารณ์=สาธารณ์)
๏ ผู้ไม่เห็น แก่ตน
กระมลประเสริฐ........................จิตบรรเจิด เพริศพรต งามสดใส
มิเอาเปรียบ เสแสร้ง
กลั่นแกล้งใคร....................เดือดร้อนใจ ลำบาก ทุกข์ยากมาน
๏ ผู้รักษา ความดี
มีจรรยา...................................เจตพิสุทธิ์ อุตสาห์ ตั้งพิษฐาน
แม้สังคม สมสั่ง
พรั่งคนพาล.............................มิสะท้าน หวั่นไหว ใจอดทน
๏ ผู้หนักแน่น ในแก่นสาร
ชาญชีวิต.......................รู้คุณค่า ประสิทธิ์ จิตกุศล
ย่อมพิทักษ์ ศักดิ์ศรี
เยี่ยงวีรชน..........................นิรมล ล้นวิเศษ รมเยศเอยฯ(รมเยศ=รมย์)
๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น