ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ : กลอนคติสอนใจ




อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ หมายถึง
พิมเสนเป็นของหายาก มีมูลค่าสูงกว่าเกลือมาก
การเอาไปแลกกันในราคาเดียวกันย่อมขาดทุน
ความหมายคือ
คนดีไม่สมควร
ลดตัวลงไปต่อล้อต่อเถียงทะเลาะวิวาทกับคนชั่ว ต่ำทราม
ผลได้จะไม่คุ้มเสีย ไม่คู่ควรกัน

อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ : กลอนคติสอนใจ

    อันพฤติกรรม ธรรมดา ประสาสัตว์......................ย่อมประหวัด สัญชาตญาณ ชาญโฉดฉล
เปี่ยมกิเลส ตัณหา แน่นกระมล...........................ทุรดล ทุจริต จิตสามานย์(ทุรดล=ทุร+ดล)

    ปราศจากซึ่ง ศีลธรรม นำชีวิต...........................เห็นแก่ตัว หัวคิด แหนพิษฐาน
บ่รู้จัก จรรยา อัชฌาจาร.....................................สารพัดอยาก ดักดาน พาลวิธี

    ชอบเอาเปรียบ เหยียบย่ำ ทำผู้อื่น......................ให้ขมขื่น กำสรด หมดสุขี
มักก่อความ รำคาญ ราญราวี..............................สร้างบัดสี วิปริต ผิดครรลอง

    (จึงควร)ไม่คบหา สมาคม สมธรรมะ....................วิสาสะ ละได้ ไร้เศร้าหมอง
อยู่ให้ห่าง อย่าวางใจ ไกลเกี่ยวดอง....................ความคับข้อง ป้องกัน ได้ทันใด

    (เผชิญคนพาล)อย่าแสดง ความอ่อนแอ ให้แลเห็น.....ปัญญาเป็น อาวุธ สุดไสว
อย่าโกรธเคือง-เกรงกลัว มั่นหัวใจ.......................อดทน-ไม่ ประมาท องอาจมี

    เป็นธรรมดา คนพาล และบัณฑิต........................ใช้ชีวิต แตกต่าง ย่างวิถี
ฝ่ายหนึ่งทำ ความชั่ว มั่วราคี..............................อีกฝ่ายดี มีศีลธรรม เพริศอำไพ

    จึงไม่ค่อย เกี่ยวข้อง ท่องร่วมทาง.......................อาจมีบ้าง บางที เหลือวิสัย
(เมื่อ)ประสบสิ่ง แปลกแยก แตกต่างไกล..............เป็นปัจจัย ให้ต่าง ออกห่างกัน

    ผู้คบค้า คนพาล (หา)ใช่บัณฑิต..........................ร่วมทุจริต ชั่วช้า สมานฉันท์
ย่อมนับเป็น หนึ่งใน ไพร่พาลพันธ์.......................มีชีวัน อันสกปรก รกเรื้อเอยฯ

๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น