ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

อย่ามองโลกแต่ด้านดี : กลอนหก



อย่ามองโลกแต่ด้านดี : กลอนหก


    ความเย็นชื่น ชวนรื่นรมย์..................แต่มิสม กับหน้าหนาว
ที่บางครา เมฆาคราว..........................ครองห้วงหาว ราวฝนตรียม

    สังคมคน ก็สนสับ...........................ความสับปลับ สำทับเปี่ยม
เรื่องเป็นจริง-สิ่งทำเทียม.....................ดี-โหดเหี้ยม-เยี่ยมกระมลฯลฯ

    นับนานวัน ยิ่งบรรลุ.........................ใจที่คุ อกุศล
กองกิเลส เหตุกรรมกล.......................ก่อผลิตผล บาปมลทิน

    คอยเห็นแต่ แก่ตัวเอง......................ประโยชน์เพ่ง เป็นนิจสิน
ปราศเมตตา จนชาชิน.........................ชีวินเกื้อ เพียงเพื่อ "กู"

    โลกจึงเป็น เช่นปรากฏ.....................สิ่งสลด ชวนหดหู่
ทยอยประดัง แลพรั่งพรู.......................ปกติอยู่ มิรู้แปลง

    จ้องเอาเปรียบ เหยียบย่ำกัน...............ความสัมพันธ์ สรรเสแสร้ง
ครวญคิดขบ ตลบตะแลง......................แอบลอบแทง ข้างหลังคน

    มองมุมโลก แห่งความจริง.................ประเสริฐสิ่ง อิงกุศล
มองดี-ทราม ความเป็นคน.....................อย่างแยบยล และเที่ยงตรง

    อย่ามองโลก แต่ด้านดี......................พาชีวี พลีลุ่มหลง
เปรียบมรรคา เข้าป่าดง.........................ทุกขาคง หยั่งยงเอยฯ

๒ มกราคม ๒๕๖๐

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น