ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ : คืนร้าง ข้างแรม

               
                           


กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ : คืนร้าง ข้างแรม

๏                         คืนร้างข้างแรม     
ดาวกริ่มยิ้มแย้ม        เดือนลับดับหาย
นภาราตรี                ระรี้ปริปราย  
แสงดาวพราวผาย      พรายพร่างรังรอง

๏                          เพราะฟ้ามืดมน  
ดาวจึงถกล              เปล่งปลั่งทั้งผอง
ท่ามกลางราตรี          ไร้สุรีย์ส่อง  
เดือนดาวเข้าครอง      ท้องฟ้าอำไพ

๏                           ในยาม กลียุค  
ความเสื่อมทรามซุก    นราสาไถย
คนดีดำรง                 แม้ดงพงไพร  
พบเด่นเห็นไกร          ไชโยโสภา

๏                           ศีลธรรมทรามเสื่อม  
อย่าระอาเอือม            (จง)กล้าแกร่งแสวงหา
อริยมรรค                  เป็นหลักชักพา  
ดำเนินชีวา                 เจริญงอกงาม

๏                            กระแสราคา(ราคา=ราคะ)
คาวสาบหยาบช้า          ไถลใจหลาม
เหลวไหลสนุก             ชิงสุกก่อนห่าม  
สำส่อนร้อนกาม            ตามอำเภอใจ

๏                             ครอบครัวแตกแยก      
ชีวิตเหลวแหลก            สิ้นหวังพังไหว
เหมือนสัตว์ตัวหนึ่ง         รำพึงร่ำไร  
ต่ำทรามความไส           ในชีวิตตน

๏                              ไม่มีความสุข  
มากล้นท้นทุกข์             วุ่นวายสับสน
เสียดายชีวา                  เกิดมาเป็นคน  
กำพืดมืดมน                  ฉลชั่วมัวเมา

๏                               หลังจากแตกตาย  
ต้องไปอบาย                  ชดใช้กรรมเก่า
ตราบนานเท่านาน             กว่ากาลบรรเทา  
วิโยคโศกเศร้า                 ร้าวระทมเอย ฯ

๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น