วิถีธรรมชาติคือปรัชญา : กลอนคติสอนใจ
๏ เพราะมี PM. 2.5.................................................ความร่า เริงใจ พลอยหายหนี
ลำบาก ยากเข็ญ เป็นทุกข์มี...............................สุขภาวะ ที่ดี ทำยังไง?
๏ ปัญหา ใหญ่ยิ่ง สิ่งแวดล้อม..................................เพรียงพร้อม (ปัญหา)เศรษฐกิจ วิกฤติไฉน
บ่รู้ ว่า(กู)ทำ กรรมอะไร(ไว้)?..............................ถึงได้ ตามสนอง ต้องทัณฑา(ทัณฑ์)
๏ (มีเงิน)อยากซื้อ เสื้อใหม่ ใส่หน้าร้อน.....................ต้องย้อน เป็นทุกข์ เพราะ(กาม)ตัณหา?
ขนาด(size) ต้องพอดี มีอุปาทาน์(ยึดมั่น).............ทำให้ ทุกขา หรือกระไร?
๏ อยากเป็น คนดี มีวิชา...........................................ตั้งหน้า ตั้งตา ปฏิบัติใฝ่
บ่เห็น เป็นทุกข์ คุกคามใจ...................................(มี)ภว ตัณหาไง ใครว่าไม่ดี?
๏ ไม่อยาก ติดคุก ติดตะราง.....................................จึงละวาง ทางชั่ว มั่วบัดสี
ร้างเร้น เป็นทุกข์ ไร้คลุกคลี.................................ทั้งๆ ที่มี วิภวะ(ตัณหา)*
๏ อยากแล้ว ไม่ได้ ดั่งใจอยาก..................................ต่างหาก (ที่)ทำให้ ไร้สุขะ(ไม่ใช่ทุกข์เพราะอยาก)
อภิรมย์ สมใจ (เมื่อ)ได้ชัยชนะ..............................ธรรมะ ไม่ดู ก็รู้ดี
๏ ความจริง บนโลก ตามปกติ....................................หากมิ เกียจคร้าน ปัญญาลี้(โง่เขลา)
ธรรมะ ย่อมจะเห็น เด่นดุษณี.................................(เพราะ)วิถี ธรรมชาติ คือปรัชญา
๏ ควบคุม จิตใจ ให้เป็นกุศล......................................ส่งผล สุคติ มิทุกขา
เมื่อกฎ แห่งกรรม คือธรรมดา(ความจริง).................ศึกษา ให้ปรากฏ เห็นบทเรียนฯ
๙ มีนาคม ๒๕๖๖
*ว่าตามความเป็นจริง ความอยากหรือตัณหาไม่ไช่สาเหตุที่ทำให้เป็นทุกข์โดยตรง
ถ้าความอยากได้รับการตอบสนองก็ทำให้เป็นสุข ถ้าไม่สมอยากก็จะทำให้เป็นทุกข์
ผู้เขียนเข้าใจว่า
ที่พระพุทธเจ้าสอนให้กำจัดความอยาก(ตัณหา) เพราะถ้าอยาก(มีตัณหา)แล้ว จะควบคุมผลลัพธ์ยากหรือควบคุมไม่ได้เลย อาจจะทำให้เป็นสุขหรือทุกข?
แต่เราควบคุมความอยาก(ตัณหา)ได้ ถ้าไม่มีความอยาก(ไม่มีตัณหา)ก็จะไม่มีความทุกข์
แน่นอนว่า จะไม่มีความสุขด้วย
แต่ไม่สำคัญ เพราะพระพุทธเจ้ามองว่า ความสงบเป็นความสุขที่สุด นิพพานเป็นสภาวะที่สงบที่สุด
ศาสนาพุทธยกย่องความสงบไม่ใช่ความสุข.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น