๏ ฝนโปรยปราย พรายพร่าง กลางดื่นดึก...................ไม่(ต้อง)ลุก(ขึ้นมา)ดู ก็รู้สึก (ถึงความ)คึกคักเห็น
หยาดพิรุณ ละมุนละไม พิไลเป็น............................พฤกษชาติ เคยขาด(ฝน)เร้น เย็นอยู่จริง
๏ ต้นคุณนาย ตื่นสาย สยายยอด...............................ผลิตใบ ใหม่สอด ทอดก้านกิ่ง
ฤดูกาล ผันเปลี่ยน เวียนหมุนยิ่ง.............................(ส่ง)สัญญาณบอก มิกลอกกลิ้ง นิ่งนอนนาน
๏ ฤดูหนาว เข้าใกล้ วันไคลพ้น.................................ความร้อนแพลง สำแดงพล อลหม่าน
ประเดี๋ยวร้อน ประเดี๋ยวหนาว เคล้าคลอพาน............เสื้อกันหนาว เบางาน เตรียมการ(เก็บ)กอง
๏ (หน้า)หนาวปีนี้ มิหนาว เท่าปีก่อน............................ปีนี้(หน้า)ร้อน อาจแล้ง มิเป็นสอง
ธรรมชาติ ขาดสมดุล คุ้นครรลอง............................เพราะคนผอง ต้องการแต่ เห็นแก่ตน(ทำลายธรรมชาติ)
๏ โลกใบนี้ ไม่มีวัน เหมือนกาลเก่า..............................แม้คนเรา จะรู้ แต่(กู)ไม่สน
ต่างคนต่าง หวังสุขี ชีวีดล......................................ต่างเอาแต่ แส่ให้ตน ล้นได้ดี(ใครได้ชั่วช่างหัวมัน)
๏ รายได้ต่ำ แต่ความอยาก จับจ่ายสูง..........................จึงชักจูง คนให้ ใคร่สร้างหนี้
อยากยกฐา นะหวัง มั่งคั่งมี.....................................แต่นิสัย ไม่ดี ขี้เกียจ(ทำ)งาน
๏ ไม่แพ้ใคร คนไทยเฟื่อง เรื่องบ้าหวย.........................หวังร่ำรวย ทางลัด มนัสหาญ
เรื่องศีลธรรม ต่ำช้า แสนสามานย์............................เรือนจำล้น ผลประจาน สันดาน(คน)ไทย(ปัจจุบัน)
๏ ทุกวันนี้ มิพาน "บ้านเมืองสงบ".................................แม้(แต่ใน)วัดวา ยังประสบ พบสาไถย
มิรู้ว่า อนาคตเห็น (จะ)เป็นเช่นไร?...........................แต่มั่นใจ เมืองไทย ไม่(มีวัน)เหมือนเดิมฯ
๓๑ มกราคม ๒๕๖๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น