ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2565

ผิดเป็นครู : กลอนคติสอนใจ



ผิดเป็นครู : กลอนคติสอนใจ

    หวนคิดถึง การกระทำ กรรมก่อนเก่า.................ที่เรา ทำไป (อย่าง)ไร้เดือดร้อน

บ่เห็น เป็นความผิด จิตอาทร...........................สะท้อน ความอ่อนหัด ในสัทธรรม

(สัทธรรม=ธรรมของสัตบุรุษ หรือคนดี)


    ต่อเมื่อ ศึกษา พุทธศาสน์................................มุ่งมาด พัฒนา อุราล้ำ

ค่อยเพียร เรียนรู้ ดู-คิด-จำ..............................ค่อยนำ จิตสำนึก ผนึกใน(ใจ)


    ครั้นธุลี(ในดวงตา) มีน้อย พลอยตระหนัก...........ด้วยหลัก ศีลธรรม (ที่)คำนึงได้

การกระทำ เก่าก่อน ย้อนคิดไป........................มีมากมาย ไม่ถูกต้อง ครรลองธรรม

 

    จงปรับ จงเปลี่ยน เจียนประพฤติ........................หยุดยึด อัตตา ตัณหาย้ำ

หยุดกิเลส เหตุให้ ใฝ่บาปกรรม........................เอาการ กระทำคิด ผิดเป็นครู


    (พยายาม)สละสันดาน มารยา ที่สาไถย..............เมื่อดวงตา(ปัญญา) สว่างใส ทำให้รู้

อะไรถูก อะไรผิด ประสิทธิ์ดู.............................เยี่ยงผู้ ผดุงธรรม นำชีวิน

 

    ระมัดระวัง ตั้งใจ (จะ)ไม่ทำผิด...........................สุขุม ครุ่นคิด เป็นนิจสิน

ห้ามกระทำ หยาบช้า บาปราคิน........................ไม่ถวิล โลกา ค่านิยม

 

    ใครขบขัน หยันเยาะ ก็ช่างเขา...........................เราจะ พยายาม ทำสะสม

สร้างบุญ สุนทาน ภารภิรมย์.............................ละทิ้ง สิ่งโง่งม (ที่)สังคมเมา(มัว)


    ลาภ-ยศ-ชื่อเสียงฯลฯ หลีกเลี่ยงหา*..................กุศลธรรม สัมมา ละลดเขลา

ด้วยบุญ กุศล ดั้นด้นเนา(ปัจจุบัน-อนาคต).........จงพา ข้าพเจ้า พ้นวัฏฏ์เทอญฯ


๓ มกราคม ๒๕๖๕


*มุ่งทำงานด้วยความสุจริต ประกอบสัมมาอาชีพอย่างขยันหมั่นเพียร เพื่อเลี้ยงชีวิต เพื่อฐานะที่มั่นคง ดำรงชีวิตได้อย่างไม่ลำบากขัดสน

ไม่มุ่งอวดร่ำอวดรวย แสวงหายศถาบรรดาศักดิ์ ชื่อเสียง อำนาจอิทธิพล อย่างที่มีคนมากมายชอบทำ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น