๏ ลูกค้า มาซื้อของ.......................................มุ่งหมายปอง ต้องการผล(สำเร็จ)
โชคดี สิริมงคล......................................สุขสันติ์ล้น ท้นร่ำรวย
๏ ซื้อ(ของ)ไป ถวายพระ................................เป็นธุระ ทำพิธี(กรรม)ช่วย
เสริมดวง ลุล่วงทวย...............................สิ่งประสงค์ หลงใหลมี
๏ ก็เพราะ คนส่วนมาก....................................คิดแค่(มีความ)อยาก ประเสริฐศรี
อยากอยู่ ดีกินดีฯลฯ...............................แต่(คุณธรรม)ความดี มิกระทำ
๏ งานการ คิดคร้านเกียจ.................................กลับกระเดียด อยากรวยร่ำ
ฐานะ พสุต่ำ..........................................แต่ทำตน เช่นคน(มั่ง)มี(พสุ=ทรัพย์, สมบัติ, ความมั่งมี)
๏ มีความ สามารถน้อย...................................เอาแต่คอย (ให้)คนนั้นคนนี้
รัฐบาล ช่วยฉันที....................................(อยาก)มีกินใช้ ไม่ยากจน
๏ เหมือนคน ที่ล้นเลศ....................................ล้นกิเลส (แต่)ไร้เหตุผล
ไป่ตรอง มองตัวตน.................................(คือ)ต้นเหตุให้ (ชีวิต)ไม่พัฒนา
๏ มิใคร่ ใฝ่(หา)ความรู้....................................อดทนสู้ เพียรศึกษา
มิ มา นะอุตส่าห์......................................ทุ่ม(สติ)ปัญญา หาทำกิน(จะมีเงินได้ยังไง?)
๏ ไม่รัก การเก็บออม(เงินทอง)........................ฤาพรักพร้อม ล้อมทรัพย์สิน?(มีแต่หนี้สิน)
(หวัง)พึ่งพา(ผู้อื่น) จนชาชิน.....................ชีวินด้อย ต้อยต่ำเอยฯ**
๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๙ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๑ สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค
คิลานสูตร ว่าด้วยมีตนเป็นเกาะ [๗๑๑] ดูกรอานนท์ สมัยใด ตถาคตเข้าเจโตสมาธิอันไม่มีนิมิต เพราะไม่กระทำ ไว้ในใจซึ่งนิมิตทั้งปวง เพราะดับเวทนาบางเหล่าแล้วอยู่ สมัยนั้น กายของตถาคตย่อมผาสุก เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายจงมีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ จง มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่เถิด. [๗๑๒] ดูกรอานนท์ ก็ภิกษุเป็นผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณา เห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติกำจัดอภิชฌา และโทมนัสในโลกเสีย ดูกรอานนท์ ภิกษุเป็นผู้มีตนเป็นเกาะมีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งอยู่ อย่างนี้แล. [๗๑๓] ดูกรอานนท์ ก็ผู้ใดผู้หนึ่งในบัดนี้ก็ดี ในเวลาที่เราล่วงไปแล้วก็ดี จักเป็น ผู้มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง ภิกษุเหล่าใดเป็นผู้ใคร่ต่อการศึกษา ภิกษุเหล่านั้นจักเป็นผู้เลิศ.หมายเหตุผู้เขียน :
คำว่า " มีตนเป็นเกาะ มีตนเป็นที่พึ่ง ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง คือ มีธรรมเป็นเกาะ มีธรรมเป็นที่พึ่ง
ไม่มีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่ง " เป็นหลักคำสอน
แต่การนำไปใช้ ต้องเลือกวิธีปฏิบัติให้เหมาะสมตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกันไป
เช่นพระภิกษุสงฆ์ พระพุทธเจ้าจะเน้นย้ำเรื่องทำสติปัฏฐาน๔ เป็นต้น
อย่าอ่านแล้วคิดเพียงผิวเผิน ว่าหลักธรรมนี้เป็นเรื่องของพระสงฆ์ ไม่เกี่ยวกับตัวเอง
หากใครคิดได้แค่นั้นก็น่าเสียดาย ที่ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่รู้จักการประยุกต์ใช้ธรรมะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น