ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันเสาร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ความเป็นมิตรย่อมไม่มีในคนขั่ว : กลอนคติเตือนใจ



ความเป็นมิตรย่อมไม่มีในคนขั่ว : กลอนคติเตือนใจ

    คบคน ฉลพาล ไม่นานดอก..................................(ต้อง)โดนหลอก โดนโกงฯลฯ อย่าสงสัย

โดนเอาเปรียบ เหยียบย่ำ อยู่ร่ำไป......................คบมัน ทำไม ให้ป่วยการ?


    คนไร้ ศีลธรรม ความสุจริต...................................(แค่)ใกล้ชิด ชีวิตทุกข์ สิ้นสุขศานติ์

คอยก่อ เรื่องทราม ให้รำคาญ.............................เดือดร้อน บันดาล ผลาญสวัสดี


    ไร้ความ เป็นมิตร(ใน) มิจฉาหมู่.............................ผู้เห็น แก่ตน มนบัดสี

บ่เคย คิดสร้าง ความหวังดี..................................(เสีย)สละพลี เพื่อใคร ในสากล

 

    (การ)มองแค่ ด้านดี ของคนอื่น.............................สักวัน สิพานดื่น ขื่นขมผล

ด้านดี-ชั่วใด ในตัวคน.........................................มองให้ ถ้วนท้น ดลปัญญา


    อย่าคบ คนพาล(ชั่ว) คบบัณฑิต(ดี).......................ภาษิต พุทธศาสตร์ ปราญช์สิกขา

เรียนรู้ เหตุผล ดลพัฒนา.....................................ชีวา อยู่รอด อย่างปลอดภัย

 

    "คบใคร ก็ได้" ไม่(ใช่ความ)ฉลาด.........................สิพลาด ส่งผล สู่ตนไฉน

(เพราะการ)คบค้า สมาคม รมย์ร่วมใคร..................(อย่างน้อย)ย่อมรับ นิสัย ได้สันดาน(มาด้วย)

 

    แม้ขาด คนดี มีศีล(ธรรม)สบ................................พึงอยู่ อย่างสงบ ปรารภศานติ์

ไม่มี มิตรไซร้ (ชีวิต)ไม่กันดาร.............................แต่จะทุกข์ ทรมาน เพราะพาลมิตร


    คนชั่ว มากมี คนดีน้อย........................................โลกจึง ด่างพร้อย ด้อยสุจริต

หนทาง สว่างใส ใช้ชีวิต......................................บัณฑิต มักต้อง ท่องเดียวดาย


๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๔


หมายเหตุของผู้เขียน: ขึ้นชื่อว่าคนชั่ว ถึงจะเป็นลูกหลาน พ่อแม่ญาติพี่น้องฯลฯ ก็ไว้วางใจไม่ได้ คบไม่ได้

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๙ ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑
๒. โกสัมพิยชาดก
อยู่คนเดียวดีกว่าร่วมกับคนพาล
 [๑๒๒๓] 	ถ้าจะพึงได้สหายผู้มีปัญญา เป็นนักปราชญ์เที่ยวไปร่วมกัน ผู้มีปกติ
                          อยู่ด้วยกรรมดี พึงครอบงำอันตรายทั้งปวงเสีย แล้วดีใจ มีสติเที่ยวไป
                          กับสหายนั้น.
             [๑๒๒๔] 	ถ้าไม่พึงได้สหายผู้มีปัญญา เป็นนักปราชญ์เที่ยวไปร่วมกัน ผู้มีปกติ
                          อยู่ด้วยกรรมดี พึงเที่ยวไปแต่ผู้เดียว เหมือนพระราชาทรงสละ
                          แว่นแคว้นเสด็จไปแต่พระองค์เดียว หรือเหมือนช้างมาตังคะเที่ยวไปใน
                          ป่าแต่เชือกเดียว ฉะนั้น.
             [๑๒๒๕] 	การเที่ยวไปผู้เดียวประเสริฐกว่า เพราะคุณเครื่องความเป็นสหายย่อมไม่
                          มีในคนพาล ควรเที่ยวไปแต่ผู้เดียวแต่ไม่ควรทำบาป เหมือนช้างมาตังคะ
                          มีความขวนขวายน้อย เที่ยวไปในป่า ไม่ทำกรรมชั่ว ฉะนั้น.
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
[199] อบายมุข 4 (ช่องทางของความเสื่อม, ทางที่จะนำไปสู่ความพินาศ)
       1. อิตถีธุตตะ (เป็นนักเลงผู้หญิง, นักเที่ยวผู้หญิง)
       2. สุราธุตตะ (เป็นนักเลงสุรา, นักดื่ม)
       3. อักขธุตตะ (เป็นนักการพนัน)
       4. ปาปมิตตะ (คบคนชั่ว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น