ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ว่าด้วย ความคิดถึง : กาพย์ยานี๑๑




ว่าด้วย ความคิดถึง : กาพย์ยานี๑๑


   ชีพนำ ดำเนินตาม.......................................กิจกรรม "ความคิดถึง"

จิตใจ ใฝ่คะนึง......................................รำพึงสู่ อยู่เรื่อยไป


    แน่วแน่ แค่กิน-นอน...................................เด็กวัยอ่อน(ทารก) จึงเติบใหญ่

ชอบเล่น เป็นจิตใจ................................ทำให้ร่าง กายพัฒนา


    คำนึง ถึงความรัก.......................................เป็นอุปสรรค(ต่อ) การศึกษา

ทอนบั่น สติปัญญา................................สร้างปัญหา สู่รุ่นวัย(วัยรุ่น)

 

    คะนึง ถึงหน้าที่..........................................จรรยาดี มิเหลวไหล

ฝึกฝน จนชาญชัย..................................งานก้าวไกร ไววัฒนา


    โลภอยาก หลากไม่หยุด.............................บ่สิ้นสุด ความอุตสาห์

สะสม ทรัพย์เงินตรา...............................เศรษฐีกล้า เพียรหากิน

 

    ทุจริต คิดไม่ซื่อ.........................................คนนับถือ สิหมดสิ้น

มารยา เป็นอาจิณ...................................คือราคิน คน(ปกติ)ทั่วไป

 

    คิดถึง แต่คนอื่น.........................................คอยหยิบยื่น ประโยชน์ให้

(เขา)รับแล้ว เลิกใส่ใจ(ความดีของเรา).....คือนิสัย ใน(คน)ธรรมดา


    สติ ปัฏฐาน๔.............................................สร้างวิถี สิ้นตัณหา

หลุดพ้น กลโลกา...................................ขจัดกิเลส เหตุปัจจัย


    คิดดี (มีจิต)สำนึกดี....................................บาปบัดสี มิครวญใคร่

ก่อกรรม ทำอะไร....................................ก็จะไม่ เกิดเวรกรรม

 

    คำนึง ถึงความจริง.....................................สละทิ้ง ความเชื่อ(งมงาย)ส่ำ

(มี)เหตุผล คือกุศลธรรม..........................ที่นำพา ชีวะบวร


    คิดจง(จงคิด) ตรงไป(ตรง)มา......................คือสุทธา อดิสร

ลำดับ เป็นกาพย์กลอน............................เสพสุนทร ผ่อนคลายเอยฯ


๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น