๏ ต้องรดน้ำ ต้นไม้ ในหน้าฝน..................................ช่างพิกล ชีวิต พิศไฉน
ลมนำพา ฟ้าคะนอง กึกก้องไกร.........................ก่อนผ่านไป ไร้ฝน ล้นหลั่งริน
๏ พยากรณ์ อากาศ ประสาทเห็น..............................เป็นเปอร์เซ็นต์ ปราศกรอบ ขอบเขตสิ้น
ฝนจะตก ตรงไหน ในปัถพิน?............................มี(พยากรณ์)เหมือนไร้ หากให้จิน ตนาการ(เดาเอาเอง)
๏ (ยาม)เย็นฟ้าใส ได้เพลิดเพลิน เดินรดน้ำ................ดินชุ่มฉ่ำ นำพฤกษา ประสิทธิ์สาร
ผลิยอดใบ ให้ดอก ออกตระการ..........................ชมธรรมชาติ (ทำให้)จิตสะอ้าน บานเบ่งเบา
๏ พลันตะวัน ยอแสง รอนแรงส่อง..........................นภผ่อง หมองมัว สลัวเสลา*
เพียงเผลอใจ ไม่นาน(ว่า) กาลยังเยาว์...............ก็เริ่มเข้า เงาพลา แห่งสายัณห์
๏ เฉกเช่นชน บนโลกกว้าง ต่างประสงค์..................อยู่ยืนยง ร่มเย็น เป็นสุขสันติ์
อยากกินดี อยู่ดี ใช้ชีวัน....................................หฤหรรษ์ บันเทิง เริงโลกีย์
๏ ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ วัยชรา.....................................ต่างปรารถนา อภิรมย์ อุดมวิถี
รูป-กลิ่น-เสียง-รสชาติ-สัมผัสดี..........................คือสิ่งที่ รวมเรียกว่า "กามคุณ"
๏ ต่างปล่อยจิต ปล่อยใจ ไปลุ่มหลง......................ยามใดขาด หวาดพะวง งงหัวหมุน
ต่างประสงค์ มากมาย ใคร่กักตุน........................มิอยากจุน เจือจิต คิดแบ่งปัน
๏ ตั้งเป้าหมาย ขวนขวายไป ให้ถึงผล(สำเร็จ).........ต่างดิ้นรน จนลืมว่า อายุสั้น
พลีเพลา(เวลา) เพื่อ(สิ่ง)ชั่วคราว ก็เท่านั้น .........เมื่อชีวา อาสัญ (ทุกสิ่ง)พลันสูญไปฯ
๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔
*เสลา แปลว่า สวย, งาม, เกลี้ยงเกลา, เปลา, โปร่ง, เฉลา ก็ว่า.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น