วัน(ขอสอน)พระ : กลอนคติเตือนใจ
๏ เห็นข่าวร้อน
(อยาก)ขอสอนพระ.......................................ผู้(ดำรง)สมณะ เพศวิสัย*
คิดอ่านทำ
กรรมอะไร.............................................ธรรมวินัย ให้ตรึกตรอง
๏ (เมื่อ)สละเพศ ฆราวาส(แล้ว)...........................................อย่าประมาท วาดผยอง
ควรกระทำ ตามครรลอง..........................................ที่ถูกต้อง
หลักคลองธรรม
๏ (เป็นพระ)ต้องหลีกลี้ วิถีโลก............................................อันชุมโชก
กิเลสล้ำ
เหล่าโลกีย์ พฤติกรรม.............................................(เมื่อใดที่)สมณะทำ
ระยำเป็น
๏ เช่นที่พระ
สะสมเงิน.......................................................ร่ำรวยเพลิน
เมินผิดเห็น
ซื้อตำแหน่ง
แข่งวิ่งเต้น...........................................อยากโดดเด่น เป็นใหญ่โต
๏
**(พระชอบพูดว่า)"ธรรมวินัย ไม่ห้ามพระ...........................ขับรถนะ"
อย่ามาโม้
ความรู้ไร้
ใคร่คุยโว.................................................(หลายคนมี)เปรียญธรรมโก้ (แต่)โมหะกอง
๏ พระไตรปิฎก
ไม่ศึกษา....................................................ยังจะมา
พูด(จา)จองหอง
อ้างอะไร
ไม่สอดคล้อง............................................ความถูกต้อง ธรรมวินัย
๏ (ชอบอ้าง)ต้องเผยแผ่
พระศาสนา(จึงต้องทำสิ่งที่มิควร).........(แต่)ธรรมวินัยกล้า ละเมิดได้
หน้าที่พระ
คืออะไร?...............................................อย่าเฉไฉ หลายมารยา
๏ มุ่งลาภ-ยศ-สรรเสริญ-สุข................................................(เดี๋ยวนี้)พระสนุก
กับตัณหา
เท่า(กับ)เหยียบย่ำ
(คำสอนของ)พระศาสดา................เลิกด้านหน้า (ขอลาสึก)เป็นพระเทอญฯ
๗ ตุลาคม ๒๕๖๒
*สมณ-, สมณะ /สะมะนะ-/
คำนาม
ผู้สงบกิเลสแล้ว, ผู้ระงับบาป, ภิกษุ.
คำนาม
ผู้สงบกิเลสแล้ว, ผู้ระงับบาป, ภิกษุ.
[248] ปัพพชิตอภิณหปัจจเวกขณ์ 10
(ธรรมที่บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ)
บรรพชิตควรพิจารณาเนืองๆ
ว่า (เติมลงหน้าข้อความทุกข้อ)
1.
เราถึงความมีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว
(ในนวโกวาท มีต่อว่า “อาการกิริยาใดๆ ของสมณะ
เราต้องทำอาการกิริยานั้นๆ”)
From
<http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=%CD%C0%D4%B3%CB>
**[๑๔] ก็โดยสมัยนั้นแล
พระฉัพพัคคีย์ขี่ยานซึ่งเทียมด้วยโคตัวเมีย
มีบุรุษเป็นสารถี
เทียมด้วยโคตัวผู้ มีสตรีเป็นสารถีบ้าง. ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า เหมือน
ชายหนุ่มหญิงสาวไปเล่นน้ำในแม่น้ำคงคาและแม่น้ำมหี ฉะนั้น ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
ไม่พึงไปด้วยยาน รูปใดไปต้องอาบัติทุกกฏ.
สมัยต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งไปพระนครสาวัตถีในโกศลชนบทเพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค แต่
อาพาธเสียกลางทาง และได้หลีกจากทางนั่งอยู่ ณ โคนไม้แห่งหนึ่ง ประชาชนพบภิกษุนั้นจึง
เรียนถามว่า พระคุณเจ้าจะไปไหน ขอรับ?
ภิกษุนั้นตอบว่า อาตมาจะไปพระนครสาวัตถี เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค จ้ะ
ป. นิมนต์มา ไปด้วยกันเถิด ขอรับ
ภิ. อาตมาไม่อาจ เพราะกำลังอาพาธ จ้ะ
ป. นิมนต์มาขึ้นยานเถิด ขอรับ
ภิ. ไม่ได้จ้ะ เพราะพระผู้มีพระภาคทรงห้ามยาน
ภิกษุนั้นรังเกียจอยู่ดังนั้นจึงไม่ยอมขึ้นยาน ครั้นไปถึงพระนครสาวัตถีแล้ว จึงแจ้ง
เรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุ
แรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตยานแก่ภิกษุผู้อาพาธ.
เทียมด้วยโคตัวผู้ มีสตรีเป็นสารถีบ้าง. ประชาชนจึงเพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า เหมือน
ชายหนุ่มหญิงสาวไปเล่นน้ำในแม่น้ำคงคาและแม่น้ำมหี ฉะนั้น ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลเรื่องนั้น
แด่พระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุ
ไม่พึงไปด้วยยาน รูปใดไปต้องอาบัติทุกกฏ.
สมัยต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งไปพระนครสาวัตถีในโกศลชนบทเพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค แต่
อาพาธเสียกลางทาง และได้หลีกจากทางนั่งอยู่ ณ โคนไม้แห่งหนึ่ง ประชาชนพบภิกษุนั้นจึง
เรียนถามว่า พระคุณเจ้าจะไปไหน ขอรับ?
ภิกษุนั้นตอบว่า อาตมาจะไปพระนครสาวัตถี เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค จ้ะ
ป. นิมนต์มา ไปด้วยกันเถิด ขอรับ
ภิ. อาตมาไม่อาจ เพราะกำลังอาพาธ จ้ะ
ป. นิมนต์มาขึ้นยานเถิด ขอรับ
ภิ. ไม่ได้จ้ะ เพราะพระผู้มีพระภาคทรงห้ามยาน
ภิกษุนั้นรังเกียจอยู่ดังนั้นจึงไม่ยอมขึ้นยาน ครั้นไปถึงพระนครสาวัตถีแล้ว จึงแจ้ง
เรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุ
แรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตยานแก่ภิกษุผู้อาพาธ.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น