ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

เหตุผลที่ทนฝึกกรรมฐาน : กลอนคติเตือนใจ


เหตุผลที่ทนฝึกกรรมฐาน : กลอนคติเตือนใจ

    เสมือนคน อ่าน(หนังสือ)ไม่ออก.....................คำพูดบอก เขียน(ตาม)ไม่ได้
มิรู้จัก อักษรไทย.......................................ศัพท์แสงไซร้ ไร้จดจำ

    แต่มาเรียน เขียนกลอนกาพย์ฯลฯ...................คงเห็นภาพ น่าขบขำ
เปรียบเสมือน การสอนธรรม.........................หลักกรรมฐาน (ที่)ชาวบ้านเพียร

    ทั้งๆที่ แค่จริยธรรม(ระดับชาวบ้าน).................ประพฤติกรรม ยังผิดเพี้ยน
ชั่ว-โฉด-ฉล ชอบวนเวียน............................มิแปลงเปลี่ยน ไปจากจินต์

    หลักศีลธรรม ขั้นพื้นฐาน...............................ยังดักดาน มานมืดสิ้น
คิดแค่ทำ มาหากิน.....................................กามถวิล แน่นวิญญาณ

    (การ)สอนให้คน ล้นตัณหา............................เหหันมา ฝึกกรรมฐาน
พระครูบา ผู้(เป็น)อาจารย์............................(ยัง)ล้มลุกคลุกคลาน ตัณหาครอง

    ใคร่ลาภ-ยศ-ศักดิ์-สรรเสริญ............................กามเพลิดเพลิน ดำเนินสนอง
ธรรมวินัย มิไตร่ตรอง...................................แต่ป่ายปอง ธรรม(ของ)ปุถุชน(คือโลกียธรรม)

     จึงพบแค่ พิธีกรรม........................................กรรมฐานทำ กันท่วมท้น(ทั่วไป)
นั่งสมาธิ (แต่)มิดัดกระมล.............................เห็นแก่ตน ล้นมารยา

    วิปัสสนา เป็นว่าเล่น......................................(แต่สิ่ง)ที่โดดเด่น(เห็นชัด) คือตัณหา
อยากนู่นนี่ มินำพา.......................................เข้าวัดวา หาประโยชน์วน

    ส่วนใหญ่ทำ(กรรมฐาน) เพราะคำพระ................บอกว่าจะ ได้บุญล้น
หวังถูกหวย รวย-เลิกจน................................คือเหตุผล ทนฝึก(กรรมฐาน)เอยฯ

๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒

*กรรมฐาน 2  
กรรมฐาน หมายถึง อารมณ์เป็นที่ตั้งแห่งการเจริญภาวนา, ที่ตั้งแห่งการทำความเพียรฝึกอบรมจิต หรือวิธีฝึกอบรมจิต ประกอบด้วย 
1. สมถภาวนา หมายถึง การฝึกอบรมจิตให้เกิดความสงบ หรือการฝึกสมาธิ 
2. วิปัสสนาภาวนา หมายถึง การฝึกอบรมปัญญาให้เกิดความรู้แจ้งตามเป็นจริง หรือการเจริญปัญญา 

*แค่หลักจริยธรรมพื้นฐานในชีวิตประจำวันแบบชาวบ้าน
เช่น การให้ทาน การรักษาศีล(๕) มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความซื่อสัตย์ทุจริต ไม่เห็นแก่ตัว-เสียสละประโยชน์ส่วนตัว ฯลฯ ซึ่งเป็นวิธีสร้างบุญแบบโลกียธรรม 
ยังไม่ทำ-ทำไม่ได้
แต่กลับจะมาฝึกกรรมฐาน ซึ่งเป็นโลกุตตรธรรม(ธรรมพ้นโลก-ไม่เกี่ยวข้องกับโลก) 
จะเป็นไปได้อย่างไร?
คนไม่รู้จริง ก็เที่ยวสั่งสอนคนอื่นให้ฝึกกรรมฐาน เพราะคนสอนหวังลาภ-สักการะ ที่จะได้รับ
คนโง่เขลา ก็หลงเชื่อ หลับหูหลับตาทนฝึกกรรมฐานตามเขาไป คิดว่าจะได้บุญมากมายมหาศาล
แต่สิ่งที่ได้ คือความไร้สาระ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เสียเวลา-เสียทรัพยากรไปเปล่าๆ .

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น