ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ขจัดความรัก-ความเสียใจในโลกได้ : กลอนคติธรรม




ขจัดความรัก-ความเสียใจในโลกได้ : กลอนคติธรรม

    สายตา จะเห็น อะไรบ้าง?........................................เห็นรูป เห็นร่าง เห็นสังขาร
(เห็น)ความเปลี่ยน แปลงกลาย ไปตามกาล................แตกแยก แหลกลาญ ไม่นานมี

    ปัญญา จะเห็น เป็นต่างๆ..........................................กาย-ร่าง-สังขาร สำคัญวิถี
เกิด-ดับ-ลับหาย ไร้ชีวี...........................................ไม่มี ความเห็น เป็นอัตตา

    ความแก่-เจ็บ(ป่วย)-ตาย ให้ความทุกข์........................ความสุข ถูกต้อง ข้องตัณหา
กระตุ้น กิเลส แลเวทนา..........................................ประดัง ประดา เป็นอาจิณ

    (ความ)รู้สึก นึกคิด จิตใจจร.......................................ไม่แน่ ไม่นอน ยอกย้อนถวิล
อารมณ์ ผสมผเส ปนเปจินต์.....................................บันดล มลทิน ท้นวิญญาณ

    พยายาม ตามหา ที่มา(ของความ)สุข...........................จนระทม ล้มลุก สิ้นสุขศานติ์
อยากสวย-รวยร่ำ จนรำคาญ.....................................ทนทุกข์ ทรมาน เผาผลาญเพียง

    ความประสงค์ หลงเหลือ แค่เบื่อหน่าย.........................กาย-เวทนา-จิต-ธรรม=ความไม่เที่ยง
เกิด-(ตั้ง)อยู่-ดับสลาย ไม่เอนเอียง............................ยลเยี่ยง รุ่งอรุณ สุญญตา

    เพลา ฟ้าสาง แสงสว่างแรก.......................................สอดแทรก รัตติกาฬ งามหรรษา(รัตติ=กลางคืน)
สารพัน สันสี รุจิ นภา..............................................เสมือนมี ชีวา น่าชื่นชม(รุจิ=สว่าง,งามฯลฯ)

    (เมื่อ)สุริโย โผล่พ้น ล้นขอบฟ้า...................................พิภพเบิก เลิกรา (การแสดง)สีสะสม
สูญสลาย หายลับ ไปกับลม......................................แลอุดม (ความ)สว่างไสว ในโลกเอยฯ

๙ มิถุนายน ๒๕๖๒

*ปฏิปทาอันให้ถึงการเจริญสติปัฏฐาน
              [๘๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงสติปัฏฐาน การเจริญสติปัฏฐาน และปฏิปทาอันให้ถึงการเจริญสติปัฏฐาน แก่เธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงฟัง
ก็สติปัฏฐานเป็นไฉน? ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมพิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย
ย่อมพิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ ...
ย่อมพิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ ...
ย่อมพิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าสติปัฏฐาน.
             [๘๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็การเจริญสติปัฏฐานเป็นไฉน?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พิจารณาเห็นธรรม คือความเกิดขึ้นในกาย พิจารณาเห็นธรรม คือ ความเสื่อมในกาย พิจารณาเห็นธรรม คือ ความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย
พิจารณาเห็นธรรม คือ ความเกิดขึ้นในเวทนา ...
พิจารณาเห็นธรรม คือ ความเกิดขึ้นในจิต ...
พิจารณาเห็นธรรม คือ ความเกิดขึ้นในธรรม พิจารณาเห็นธรรม คือ ความเสื่อมในธรรม พิจารณาเห็นธรรม คือ ความเกิดขึ้นและความเสื่อมไปในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสีย
ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าการเจริญสติปัฏฐาน.
             [๘๑๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิปทาอันให้ถึงการเจริญสติปัฏฐานเป็นไฉน?
อริยมรรคประกอบด้วยองค์ ๘ คือ สัมมาทิฏฐิ ... สัมมาสมาธิ นี้แลเรียกว่า ปฏิปทาอันให้ถึงการเจริญสติปัฏฐาน.
จาก <http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=19&A=4778&Z=4873>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น