สัตว์โลก : กลอนรักษ์โลก
๏ โลกใบนี้
มากมีคน มืดมน(ความ)คิด..........................ใช้ชีวิต มิจฉา มานสาไถย
ปฏิพัทธ์
อัตตา อธิปไตย.........................................เชื่อมชีวิต-จิตใจ
ไปตลอดกาล
๏ ธำรงตน
บนวิถี ที่ประมาท........................................ยกสัญชาต (ตะ)ญาณใหญ่
ไร้แก่นสาร
ใช้ชีวา
ตอบสนอง สิ่งต้องการ..................................ที่โดยมาก ดักดาน พาลยินดี
๏ สมกับที่
พุทธองค์ ทรงเรียก(คนว่า)"สัตว์(โลก)"...........ส่ำตัณหา สารพัด
ทรามบัดสี
ปฏิเสธ เหตุผล
ฉลชีวี............................................ปรารถนา ราคี ทุกวี่วัน
๏ อภิรมย์
งมงาย (เรื่อง)ไร้สาระ...................................ชอบมิจฉา อาชีวะ
ทุจริตสรร
สร้างปัญหา
ให้โลกา สารพัน...................................แต่สุดท้าย ผลร้ายนั้น
ผันคืนมา(สู่คน)
๏ สภาวะ
โลกร้อน ย้อนความทุกข์................................กลับคืนคน ผู้ลนลุก
ใคร่สุขหา
ได้เท่าไร
ก็ไม่พอ ต่ออุรา........................................ที่(ความ)กระสัน บัญชา
แน่นอารมณ์
๏ อย่าเอาอย่าง สังคม
โสมมคิด..................................ลุ่มหลงผิด มิจฉา อวิชชาสม
อย่ากระทำ
ตามพาโล คนโง่งม.................................ผู้นิยม โสมนัส (ความ)ขาดมโนธรรม
๏ อย่าเอาความ
สุขตน ยล(เป็น)ที่ตั้ง............................ควรเชื่อฟัง (จง)บังคับจิต
คิดเลิศล้ำ
การทำร้าย
โลกา อย่ากระทำ....................................ควรมองข้าม กรรมสุขสบาย
มักง่ายดล
๏ (หาก)ไม่พินิจ
พิจารณ์ วันข้างหน้า............................ที่สภา วะโลกร้อน สะท้อนผล
สิ่งแวดล้อม
พร้อมเป็นภัย ให้กับคน...........................ต้องจำนน ท้นทุก ข(ะ)ทรมาน
๏ บ่มีโลก
ใบใหม่ (ให้)ย้ายไปอยู่.................................บ่มีผู้ ทรงอิทธิ
ปาฏิหาริย์(มาช่วย)
เราต่างต้อง
สอดส่องกรรม กระทำการ........................อภิบาล โลกไว้ สุดใจเอยฯ
๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น