สางสันดาน : กลอนคติสอนใจ
๏ ราษตรี มีเสียง ลมบรรเลง........................................เสนาะเพลง ใบไม้ ไพรพฤกษา
หรีดหริ่ง เรไร ไม่เฉยชา..........................................ร่วมฉลอง เริงร่า มโหรี
๏ นิ่งฟัง เสียงสังคีต จิตสงบ........................................ทวนทบ ประสบการณ์ มานถ้วนถี่
สรุปเป็น บทเรียน เจียนฤดี.......................................เพื่อดำเนิน ชีวี เพียรพิธาน(พิธาน=การจัดแจง,การทำ)
๏ กมลลุ อกุศล คือต้นเหตุ...........................................แห่งอุปธิ กิเลส เจตเหิมหาญ
(การ)มิเห็นโทษ (ความ)โฉดช้า สมาทาน...................สร้างพันธะ สันดาน พาลธำรง
๏ ลุ่มหลง กงจักร เป็นดอกบัว.......................................เห็นชั่ว เป็นดี อานิสงส์
สิ่งสามานย์ บันเทิง เริงพะวง....................................มั่นคง ความเถื่อนถ่อย ด้อยพัฒนา
๏ ตราบเท่าที่ มิลำบาก ทุกข์ยากเข็ญ.............................จึงยังใจ ไม่เห็น เป็นปัญหา
ความเดือดร้อน กร่อนกัดทรวง (ยัง)มิล่วงมา................จึงเถลิง เริงร่า สุขะรดี(รดี=ความยินดี,ความชอบใจ)
๏ กระทั่งไร้ ไม่มีบุญ เก่าหนุนเนื่อง................................เกิดเรื่อง เกิดราว แลคราวนี้
เวรกรรม ตามสนอง คล้องชีวี....................................ฉุดกระชาก ลากขยี้ มิปรารมภ์
๏ ต้องทุกข์ ทรมาน รับทัณฑ์โทษ.................................ความโฉด ชั่วช้า อย่างสาสม
เสียงโอด ครวญคราง ดังระงม...................................เจ็บปวด รวดร้าวถม ทับตรมตรอม
๏ หากไม่ อยากระทม ซมทัณฑ์ทุกข์..............................จงฉุก คิดใคร่ จิตใจน้อม
มิศรัทธา อกุศล ยลเยี่ยมยอม....................................ให้แวดล้อม หฤทัย เห็นภัยเทอญฯ
๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น