ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2562

สางสันดาน : กลอนคติสอนใจ




สางสันดาน : กลอนคติสอนใจ

    ราษตรี มีเสียง ลมบรรเลง........................................เสนาะเพลง ใบไม้ ไพรพฤกษา
หรีดหริ่ง เรไร ไม่เฉยชา..........................................ร่วมฉลอง เริงร่า มโหรี

    นิ่งฟัง เสียงสังคีต จิตสงบ........................................ทวนทบ ประสบการณ์ มานถ้วนถี่
สรุปเป็น บทเรียน เจียนฤดี.......................................เพื่อดำเนิน ชีวี เพียรพิธาน(พิธาน=การจัดแจง,การทำ)

    กมลลุ อกุศล คือต้นเหตุ...........................................แห่งอุปธิ กิเลส เจตเหิมหาญ
(การ)มิเห็นโทษ (ความ)โฉดช้า สมาทาน...................สร้างพันธะ สันดาน พาลธำรง

    ลุ่มหลง กงจักร เป็นดอกบัว.......................................เห็นชั่ว เป็นดี อานิสงส์
สิ่งสามานย์ บันเทิง เริงพะวง....................................มั่นคง ความเถื่อนถ่อย ด้อยพัฒนา

    ตราบเท่าที่ มิลำบาก ทุกข์ยากเข็ญ.............................จึงยังใจ ไม่เห็น เป็นปัญหา
ความเดือดร้อน กร่อนกัดทรวง (ยัง)มิล่วงมา................จึงเถลิง เริงร่า สุขะรดี(รดี=ความยินดี,ความชอบใจ)

    กระทั่งไร้ ไม่มีบุญ เก่าหนุนเนื่อง................................เกิดเรื่อง เกิดราว แลคราวนี้
เวรกรรม ตามสนอง คล้องชีวี....................................ฉุดกระชาก ลากขยี้ มิปรารมภ์

    ต้องทุกข์ ทรมาน รับทัณฑ์โทษ.................................ความโฉด ชั่วช้า อย่างสาสม
เสียงโอด ครวญคราง ดังระงม...................................เจ็บปวด รวดร้าวถม ทับตรมตรอม

    หากไม่ อยากระทม ซมทัณฑ์ทุกข์..............................จงฉุก คิดใคร่ จิตใจน้อม
มิศรัทธา อกุศล ยลเยี่ยมยอม....................................ให้แวดล้อม หฤทัย เห็นภัยเทอญฯ

๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น