ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ผู้มิเห็นสัจธรรมย่อมลำพอง : กลอนหก


ผู้มิเห็นสัจธรรมย่อมลำพอง : กลอนหก

    ความหนาวเย็น ยังเป็นสิ่ง ไม่จริงจัง....................เมฆหม่นบัง พรางฟ้า นภาไสว
อากาศเรื่ม อบอ้าว ราวกลับใจ.............................เหลืออาลัย สายฝน ปรนพสุธา

    แต่ต้นข้าว ชาวนา คอยท่าเกี่ยว.........................รวงเริ่มเหี่ยว เสียวไส้ ให้ผวา
(หาก)เมล็กข้าว เปียกฝน ดลราคา........................และชีวา(ชาวนา) ตกต่ำ ระกำกรอม

    อันความสุข-ทุกข์แล้ ไร้แท้เที่ยง........................เสมือนเพียง ประสบการณ์ ผ่านรายล้อม
กฎแห่งกรรม นำพา ไร้ประนอม............................แม้ไม่ยอม ก็ไม่อาจ ตัดสัมพันธ์

    ยาฆ่าหญ้า ฆ่าแมลง แสวงหา............................ฉีดใส่นา สะสมไว้ ภัยมหันต์
(ชาวนา)ยังจับปลา มากิน ชินชีวัน........................ไม่คิดว่า จะประจัญ ภยันตราย

    คือความจริง (ที่)คนส่วนใหญ่ ใช้ชีวิต..................โดยไม่คิด พิจารณา สัจจาขวาย
อยากทำตาม ใจตน ทุรนทุราย.............................(ก่อ)ปัญหาหมุน วุ่นวาย มิไคลคลา

    ปฏิสัมพันธ์ อันใด ในสังคม................................มักนิยม เอาเปรียบกัน กระสันหา
เบียดเบียนผู้ อื่นได้ กำไรว่า.................................มิประสา กฎแห่งกรรม กระทำการ

    จิตใจคือ ที่ตั้ง สร้างความอยาก..........................ดีแต่ปาก อยากอยู่ อย่างสุุขศานติ์
คอยก่อกรรม ทำเข็ญ มิเว้นวาร.............................(คิดว่า)คือวิถี ปฏิภาณ สำคัญตรอง

    แต่ความจริง สิ่งที่ได้ มิใช่สุข.............................หากคือทุกข์ เพิ่มหนุน พูนสนอง
ผู้มิเห็น สัจธรรม หลงลำพอง................................ว่าเดินทาง ถูกต้อง ปองใจเอยฯ

๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๑

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น