ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

พุทธศาสนาจะอยู่ที่ไหน? : กลอนคติเตือนใจ






                                                                   (ภาพจาก Google )
                                            ถ้าเอาภาพจริงมาแสดง เกรงว่าจะเข้าวัดไม่ได้(555)

พุทธศาสนาจะอยู่ที่ไหน? : กลอนคติเตือนใจ


    พระกระเทย นำพระวัด จัดดอกไม้.....................ดูคลับคล้าย งานแต่ง สำแดงผล

ซุ้มประตู ดอกกุหลาบ ประดับยล.......................ดอกไม้ดื่น อื่นท้น วน(รอบ)เวที


    พื้นพิลาส พาดพรม ผสมผสาน(ลวดลาย)..........อลังการ เก้าอี้หลุยส์ ฉุยฉายสี

ผ้าแพรมัด จัดโยง บรรจงดี...............................เสมือนมี งานวิวา หะมงคล


    เต้นท์(น้ำ)ปานะ ขนาบ (เต้นท์)รับบริจาค............เต้นท์หลายหลาก ตั้งชิด ปิดถนน(ในวัด)

พระ-เณรหลาม คล่ำคลา(คลาคล่ำ) ประชาชน.....ชวนฉงน สนเท่ห์ เหตุใด?

(เหตุ อ่าน เห-ตุ มุขขำๆที่เด็กชอบพูดเล่น)


    (เดินดู)จึงเห็นป้าย ประกาศ งาน(ฉลอง)พัดยศ.........(รู้สึก)อัปยศ อดสู พระผู้ใหญ่

แนวประพฤติ ปฏิบัติ ถนัดใจ...................................เผยหลงใหล โลกีย์ อวิชา(อวิชชา)


    ลาภ-ยศ-สรร เสริญ-สุข คือทุกสิ่ง............................มัดใจยิ่ง มิ่งมาด ปรารถนา

เปรียญธรรม มิทำให้ ได้(สติ)ปัญญา........................รักวิถี ชีวา (สุขสบายแบบ)คหบดี


    (ใช้)ของแพงโปรด รถหรู กุฏิใหญ่ฯลฯ.....................ล้วนทำให้ ไกลห่าง กลางวิถี(ทางสายกลาง)

(การ)ปฏิบัติตาม ธรรมวินัย ไร้ฤดี(ไม่มีใจ).................ทำทุกอย่าง อ้างประเพณี วิถีไทย(ไม่ใช่ธรรมวินัย)


    พระทำ(ตัว)ราว ชาวบ้าน รกตัณหา..........................แล้วพุทธ(ะ) ศาสนา จะอยู่(ที่)ไหน?

วัดตั้งหน้า(ตั้งตา) หาเงิน เพลิดเพลินใจ...................เป็นธุรกิจ ผิดวิสัย(พุทธ)....(จึง)ไม่ศรัทธา


    พระไตรปิฎก ยกยอ พิเคราะห์อ่าน..........................ประดิษฐาน วิสุทธิ์ พุทธศาสนา

ณ กลางดวง หฤทัย ให้วัฒนา..................................ด้วยปฏิบัติ บูชา สาธุเอยฯ


๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๗


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

ชันตุสูตรที่ ๕
[๒๙๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้- สมัยหนึ่ง ภิกษุเป็นจำนวนมากอยู่ในกุฎีอันตั้งอยู่ในป่าข้างเขาหิมวันต์ แคว้นโกศล เป็นผู้ฟุ้งซ่าน เย่อหยิ่ง โอนเอน ปากกล้า วาจาสามหาว มีสติ ฟั่นเฟือน ขาดสัมปชัญญะ ไม่มั่นคง มีจิตคิดนอกทาง ประพฤติเยี่ยงคฤหัสถ์ ฯ [๒๙๔] วันหนึ่งเป็นวันอุโบสก ๑๕ ค่ำ ชันตุเทพบุตรเข้าไปหาพวกภิกษุ เหล่านั้นถึงที่อยู่ ครั้นแล้วจึงได้กล่าวกะภิกษุเหล่านั้นด้วยคาถาทั้งหลายว่า ครั้งก่อน พวกภิกษุผู้เป็นสาวกพระโคดม เป็นอยู่ง่าย (เลี้ยง ง่าย) ไม่เป็นผู้มักได้แสวงหาบิณฑบาต ไม่มักได้ที่นอน ที่นั่ง ฯ ท่านรู้ว่าสิ่งทั้งปวงในโลกเป็นของไม่เที่ยง กระทำที่สุดแห่ง ทุกข์ได้ ฯ ส่วนท่านเหล่านี้ ทำตนให้เป็นคนเลี้ยงยากเหมือนชาวบ้านที่ โกงเขากิน กินๆ แล้วก็นอน เที่ยวประจบไปในเรือนของ คนอื่น ฯ ข้าพเจ้าขอทำอัญชลีต่อท่าน ขอพูดกะท่านบางพวกในที่นี้ว่า พวกท่านถูกเขาทอดทิ้ง หมดที่พึ่ง เป็นเหมือนเปรต ฯ ที่ข้าพเจ้ากล่าวนี้หมายเอาบุคคลจำพวกที่ประมาทอยู่ ส่วน ท่านพวกใดไม่ประมาทอยู่ ข้าพเจ้าขอนมัสการท่านพวกนั้น ฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น