ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

ความรักคือกิเลสตัณหา : กลอนคติเตือนใจ












ความรักคือกิเลสตัณหา : กลอนคติเตือนใจ


    ชีวิตฤา คือ(เหมือน)ละคร................................สอดแทรกซ้อน สิ่งเน่าเสีย(ความชั่ว,ฉล,ปัญหาฯลฯ)

ทำจิตใจ ให้อ่อนเปลี้ย...................................หดหู่ระเหี่ย เพลียกมล


    กองกิเลส และตัณหา......................................(ต้น)เหตุบรรดา อกุศล

พื้นฐานจริต จิตใจคน.....................................จึงดิ้นรน กระวนกระวาย


    อยากมี(อยาก)ได้ ไร้สิ้นสุด...............................เปรียบประดุจ หิวกระหาย

ผลักดันคน ทุรนทุราย....................................ความอิ่ม(พอ)คล้าย ไม่เคยมี


    กองกิเลส และตัณหา.......................................ก่อปัญหา มนวิถี(มน อ่าน มะนะ)

ผลิตผลร้าย ให้ชีวี.........................................(ตลอด)วัน-เดือน-ปี นิรันดร


    ความรักฤา (ก็)คือ(กิเลส)ตัณหา........................(ทำให้)ไม่คลาดคลา ความรุ่มร้อน

จึงได้ยิน (คำว่า)ลืมกิน-นอน...........................ยามอาวรณ์ รักฝังใจ


    (เมื่อ)ความไม่เที่ยง(อนิจจัง) เลี่ยงไม่พ้น............ดวงกมล คนอ่อนไหว

(ความ)รักฤาแผก แตกต่างไป?.......................เปลี่ยนแปลงได้ ไร้จีรัง(ไม่แน่นอน)


    รักเหลือล้น มิพ้น(เบื่อ)หน่าย............................เกิด-ดับได้ สลาย(ความ)หวัง

สัมพันธ์รั่ว ครอบครัวพัง.................................ประดาประดัง ทุกขังพี


    ความรักฤา (ก็)คือกิเลส(ตัณหา)......................เป็นสาเหตุ (ทำให้)สัตว์โลกนี้

สืบเผ่าพันธุ์ ลูกหลานทวี................................หาได้ดี(เลิศล้ำ) วิเศษเลยฯ(ไม่ควรบูชา)


๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๗


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๖ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๘ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา

๔. รัฏฐปาลเถรคาถา
คาถาสุภาษิตของพระรัฏปาลเถระ.
                          ...........หมู่มนุษย์ที่มีทรัพย์ในโลกนี้ ได้ทรัพย์แล้วไม่ให้ทาน
                          เพราะความลุ่มหลง ได้ทรัพย์แล้วทำการสั่งสมไว้ และปรารถนาอยากได้
                          ยิ่งขึ้นไป พระราชากดขี่ช่วงชิงเอาแผ่นดินครอบครองแผ่นดินอันมีสาคร
                          เป็นที่สุด ตลอดฝั่งสมุทรข้างนี้แล้ว ไม่รู้จักอิ่ม ยังปรารถนาจัก
                          ครอบครองฝั่งสมุทรข้างโน้นอีกต่อไป พระราชาก็ดี มนุษย์เหล่าอื่นเป็น
                          อันมากก็ดี ผู้ยังไม่ปราศจากตัณหา ย่อมเข้าถึงความตาย ยังไม่เต็มความ
                          ประสงค์ ก็พากันละทิ้งร่างกายไป ความอิ่มด้วยกามทั้งหลาย ย่อมไม่มี
                          ในโลกเลย........ฯลฯ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น