ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

ทางโลก-ทางธรรม : กาพย์ยานี๑๑



ทางโลก-ทางธรรม : กาพย์ยานี๑๑


    กามสุขัล ลิกานุโยค..............................(คือ)ครรลองโลก ปกติเร้า-

หฤทัย ให้มัวเมา...................................เฝ้าเสพสู่ คู่นิรันดร์


    ทางโลก เที่ยวหมกมุ่น..........................รสกามคุณ หนุนสุขสันติ์

ลาภ-ยศ สรรเสริญ(ยืน)ยัน......................สิ่งสำคัญ ขั้นต้นปอง

 

    ติดใจ อาลัยโลก...................................(ยาม)ต้องวิโยค โศกเศร้าหมอง

ทุกข์ใน ฤทัยนอง..................................เมื่อของรัก พรากจากไป


    แสวงหา สิ่งประสงค์..............................ที่ลุ่มหลง จำนงใคร่

(ด้วยวิธี)ชั่ว-ดี มิใส่ใจ.............................ขอแค่ได้ สมใจดาล


    ทางโลก (จึง)ชุ่มโชกบาป.......................บ่เข็ดหลาบ วัฏสงสาร

สืบสัตว์ สัญชาตญาณ.............................ปานประกฤติ จิตวิกรม(ประกฤติ=ความเป็นธรรมดา)


    ทางธรรม ถือความสัตย์...........................ต้องการตัด ทุกข์โศกสม

โลกีย์ ค่านิยม.........................................ข่มจิตใจ ไม่คำนึง

 

    ชั่ว-ดี วินิจฉัย..........................................ทำสิ่งใด ใคร่ครวญถึง

ถูก-ผิด นิมิตตรึง......................................พึงสุจริต อิฏฐารมณ์

 

    พ้นโลก(ภพชาติ) สิ้นโศกเศร้า...................เป็นเป้าหมาย ใฝ่ปฐม

ปรัชญา ค่านิยม.......................................อุดมเด่น เห็นครรลอง


    วิถี แห่งชีวะ.............................................บ่ง(บอก)สัจจะ ว่าชนผอง

ดื่มด่ำ ตามครรลอง..................................ของทางโลก (หรือ)ทางธรรมเอยฯ


๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

๘. คณิกาสูตร

พุทธอุทาน
สิ่งที่บุคคลได้รับอยู่และสิ่งที่บุคคลยังหวังที่จะได้รับต่อไป สิ่งทั้งสองนั้นเจือด้วยธุลีคือราคะเป็นต้นแก่ผู้ทุรนทุรายใฝ่ใจอยากได้รับอยู่ สมณพราหมณ์ผู้มีสิกขาอันเป็นสาระ คือศีล วัตร ชีวิต พรหมจรรย์ และการบำบวง*อันเป็นสาระ นี้เป็นส่วนสุดที่ ๑ สมณพราหมณ์ผู้มีวาทะอย่างนี้ว่า ‘โทษในกามไม่มี’ นี้เป็นส่วนสุดที่ ๒ ส่วนสุดทั้งสองนี้ มีแต่จะเพิ่มตัณหาและอวิชชาให้มากขึ้น ตัณหาและอวิชชาย่อมก่อให้เกิดความเห็นผิดมากขึ้น สมณพราหมณ์ทั้งหลายไม่รู้ส่วนสุดทั้งสองนั้น บางพวกก็จมติดอยู่ บางพวกก็แล่นไป ส่วนพระอริยะทั้งหลายได้รู้แจ้งส่วนสุดทั้งสองนั้น จึงไม่ตกไปในส่วนสุดทั้งสองนั้น และเพราะละส่วนสุดทั้งสองนั้นได้ จึงไม่สำคัญตนด้วยตัณหา ทิฏฐิ และมานะ ย่อมไม่มีวัฏฏะปรากฏ
.
*(บำบวง=บนบาน, บูชา, เซ่นสรวง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น