ไม่ใช่เมืองพุทธ : กลอนคติเตือนใจ
๏ ทอด(กฐิน)ผ้าป่า สามัคคี ต้องมีแจก...........................ของขลัง ฝังแทรก (พุทธ)ศาสนา
ทำบุญ สุนทาน ต้องวันทนา.......................................(ให้พระ)สวดคาถา อาคม พรมน้ำมนต์
๏ เหล็ก-ผ้า-ศิลาฯลฯเพี๊ยน เปลี่ยนเป็นยันต์....................ยิง-ฟัน ไม่เข้า เมามัวผล
(วัตถุดิบ)ซื้อมา ไม่กี่บาท ประกาศ(โฆษณา)จน............หลอกคน ขายเป็นล้าน รวยทันที
๏ วัตถุ มงคล ล้นประเทศ..............................................พระเกจิ ผู้วิเศษ เหตุฉะนี้
เมืองไทย มิใช่พุทธ สุดมากมี.....................................ไสยศาสตร์ ทัศนีย์ ที่เป็นไทย
๏ ชักชวน ชนให้ ใคร่บริจาค..........................................ช่างยาก ลำบาก หรือ(แท้จริงเพราะ)อยากได้
หวังเงิน มากๆ หลากล้นไป.........................................จึงใช้ (พุทธ)ศาสนา เชิดหน้าบัง
๏ ชวนชน (โง่)งมงาย ให้บริจาค.....................................ง่ายมาก หากทำที มีความขลัง(ศักดิ์สิทธิ์)
(หลอกว่า)ผลตอบแทน แสนเท่า ล้านเท่าดัง.................วาดหวัง ฝังจริต คิดโลภมี
๏ สมควร แก่เพศ สมณะ?...............................................หลอกล่อ คนอุระ เหนียวตระหนี่
ด้วยการ ทุริต คิดวิธี....................................................บัดสี ไสยศาสตร์ อุบาทว์บัง
๏ (ความจริง)เมื่อได้ ให้ทาน มานสุจริต.............................โดยมิคิด เอากำไร หลายเท่าหวัง
ความพิสุทธิ์ จุดติด จิตประดัง........................................เปี่ยมพลัง เมตตา มหาคุณ
๏ จิตที่ฝึก ดีแล้ว ย่อมแกล้วกล้า......................................ทรงสติ ปัญญา สุทธาหนุน
เกิดกุศล ผลกรรม สัมมาบุญ..........................................จะหมกมุ่น มนตรา พระสวดใย(ไม่เกิดประโยขน์)
๏ มีวัด แต่ทำไม ไม่ฉลาด?.............................................เพราะขาด ศรัทธา(เชื่อ) ธรรมะไซร้
พระที่ มีทั่ว มืดมัวไทย..................................................(ส่วนใหญ่)เลื่อมใส ไสยศาสตร์ อย่างชัดเจน*ฯ
๑๕ มกราคม ๒๕๖๔
*พระส่วนใหญ่ไม่เลื่อมใสคำสอนของพระพุทธเจ้า จึงไม่ศึกษาพระไตรปิฎก
ไม่แปลกที่พระพวกนี้จะไม่เข้าใจธรรมวินัย ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง ตั้งกฎกติกาตามใจตัวเอง
จะเห็นได้จากที่พระแยกย้ายไปตั้งสำนักมากมาย มักมีกิจ-วัตรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากสำนักอื่นๆ
คนไม่รู้-ไม่ศึกษาพระไตรปิฎก ก็หลงเข้าใจว่า พระเคร่ง
แต่ไม่คิดสงสัยว่า ถ้าเป็นศาสนาพุทธเหมือนกัน ทำไมมีกิจ-วัตรแตกต่างกัน?
แล้วกิจ-วัตร ที่ว่าเคร่ง ทำไปเพื่ออะไร? พระพุทธเจ้าสอนหรือเปล่า?
ถ้าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอน แล้วพระพวกนี้วิเศษมาจากไหน? จึงมาทำกิจ-วัตร ที่แปลกแตกต่างจากคำสอนของพระพุทธเจ้าฯลฯ
พระพวกนี้ยังเป็นพระในพุทธศาสนาอยู่หรือ? ในเมื่อสิ่งที่ทำไม่ใช่สิ่งที่พระพุทธเจ้าบัญญัติฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น