ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

รู้แจ้งเห็นจริง : กลอนคติสอนใจ




รู้แจ้งเห็นจริง : กลอนคติสอนใจ

    กุมภาฯ หน้าหนาว ใยเร่าร้อน.........................................สะท้อน ปัญหา เวลานี้
สภาวะ โลกร้อน ย้อนย่ำยี....................................เพราะฝี มือมนุษย์ สุดมารยา

    ลมพัด อาจสลาย ทุกข์คลายผ่อน...................................ความร้อน คลอนกาย ที่ไขว่หา
แต่เรื่อง รุ่มร้อน ซอนอุรา.....................................แม้พา ยุพัด มิคลาดคลาย

    เมื่อเวท (ทะ)นา มาบรรจบ............................................อยากจะ สงบ ประสบหมาย
ต้องไม่ ใจจล ทุรนทุราย......................................(เพราะ)ยิ่งจะ ทำลาย(ความสงบ) (ทุกข์)ขยายมี

    ขันติ=ความอด ทนอดกลั้น...........................................มุ่งมั่น ฟันฝ่า หาวิถี
เมื่อโชค ชะตา ชุกราวี.........................................(การ)โศกเศร้า โศกี มิแบ่งเบา

    สิ่งใด(พอ) ทำได้ ให้ทำก่อน.........................................ผันผ่อน ร้อนรน กระมลเขลา
อย่าก่อ อกุศล มลมัวเมา.......................................(เพราะ)ยิ่งโหม กรรมเก่า (ให้)เร่าร้อนรน

    (ลอง)เข้าวัด เข้าวา (นั่ง)สมาธิ.......................................ฝึกสติ ปัฏฐาน* โอฬารหน
ศรัทธา สมาทาน การสวดมนต์................................อดทน อดกลั้น พลันง่ายดาย

    พิจารณา อนิจจัง (ปล่อย)วางใจจรด................................สิ่งทั้งหมด ไม่เที่ยง(แท้) เมียงสุดท้าย
ต้องเปลี่ยน แปรสภาพ แปลงกลับกลาย....................ชีวิน เวียนว่าย ตายเกิดเป็น

    มีกฎ แห่งกรรม อำนวยกิจ.............................................ประสิทธิ์ สุขมาก หรือยากเข็ญ
คือศาสตร์ สัจธรรม พึงบำเพ็ญ................................รู้เห็น เจนแจ้ง แสวงจริงฯ

๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

*
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
หนทางนี้เป็นที่ไปอันเอก เพื่อความบริสุทธิ์ของเหล่าสัตว์ เพื่อล่วงความโศกและปริเทวะ เพื่อความดับสูญแห่ง
ทุกข์และโทมนัส เพื่อบรรลุธรรมที่ถูกต้อง เพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง
หนทางนี้คือ สติปัฏฐาน ๔ ประการ
๔ ประการเป็นไฉน?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุในพระธรรมวินัยนี้
พิจารณาเห็นกายในกายอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑
พิจารณาเห็นเวทนาในเวทนาอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑
พิจารณาเห็นจิตในจิตอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑
พิจารณาเห็นธรรมในธรรมอยู่ มีความเพียร มีสัมปชัญญะ มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียได้ ๑.

From <http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=12&A=1754&Z=2150>

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น