ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ความสัมพันธ์อันสกปรก : กลอนคติเตือนใจ



ความสัมพันธ์อันสกปรก : กลอนคติเตือนใจ

    แต่ละวัน การติดต่อ ก่อสัมพันธ์................................ภายในสัง คมนั้น ลานหลากหลาย

โลกแห่งความ เป็นจริง เหมือนอิงนิยาย*.................ยังขวนขวาย โลกเสมือน เลอะเลือนลาง


    ผลประโยชน์ ตอบแทนทาง ธุรกิจ............................เป็นแรงผลัก หลักคิด นิรมิตสร้าง

โลกสมมุติ จุดหมาย ปลายหนทาง.........................เป็นแสงสว่าง หรือมืดมิด พิศต่อไป


    คนโลภแล (ความ)โลภเห็น เป็น(เรื่อง)ปกติ...............ความเผื่อแผ่ แค่คิด (ยัง)ผิดวิสัย

การเป็นคน เห็นแก่ตัว มัวเมาใจ.............................คือกระมล คนส่วนใหญ่ ในโลกา

 

    เอารัดเอา เปรียบชน คนอื่นเขา................................มีรากเหง้า เผ่าพันธุ์ เพราะ(กิเลส)ตัณหา

คนคดจิต คิดสาไถย ใคร่มารยา.............................มักสร้างเลศ เจตนา เสาะหาทรัพย์ฯลฯ(จากคนอื่น)


    เมื่อเนื้อใน ใจมนุษย์ ไม่สุจริต..................................ย่อมประสิทธิ์ สันดาน พาลสับปลับ

คอยใคร่ครวญ รัญจวนใฝ่ ในผลลัพธ์......................ประโยชน์ดื่น คืนกลับ จับจิตใจ

 

    (เป็น)ที่มาผอง ของ(ความ)สัมพันธ์ อันสกปรก...........แม้(ใน)ครอบครัว ยังมัวหมก มุ่นยกใหญ่

(ความจริง)สายสัมพันธ์ อันรกร้าง และห่างไกล........(ถึงตัวจะไป)มาหาสู่ อยู่ใกล้ (แต่)ไม่หวังดี

 

    ความคะนึง อยากพึ่งพา(ผู้อื่น) เพื่อหาผล..................คือสัจจา สากล บนโลกนี้

(อยาก)ผูกสัมพันธ์ สานเยื่อใย มอบไมตรี................(ก็)ต่อเมื่อมี ผลประโยชน์(ตอบแทน) ปราโมทย์มา


    ศัตรูของ ความสัมพันธ์ อันใกล้ชิด............................จึงเป็นจิต ทุจริตล้น ท้น(กิเลส)ตัณหา(ไม่ใช่มือที่สาม)

ศีลธรรมเร้น เห็นแก่ตัว ชั่วมารยา............................(อัน)ชนชินชา ประพฤติ ยึดครรลอง(ในสังคม)


    เมื่อต่างคน ต่างสาไถย (แต่)ไม่ถือโทษ....................ต่างยอมรับ กับ(ความ)ทรามโฉด โหดร้ายผอง(ในกันและกัน)

กระทำก่อ ต่อกัน วันคืนกอง(สะสม)........................เผยภาพผอง ความสัมพันธ์ อันสกปรกเอยฯ


๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕


*โลกแห่งความเป็นจริงเหมือนอิงนิยาย เห็นได้จากการที่คนชอบสร้างภาพให้ตัวเองดูดี(ทั้งๆที่ตัวตนจริงเลว)

ต่างใส่หน้ากาก(เสแสร้ง-หลอกลวง)เข้าหากัน.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น