๏ อาทิตย์ อัศดง ค่ำลงแล้ว....................................แสงทอง ผ่องแผ้ว แว่วปักษี
ส่งเสียง สั่งลา อาลัยมี(ทิวา).............................ต้อนรับ รัชนี ที่มาเยือน
๏ เป็นเวลา ผ่อนคลาย กายเหนื่อยล้า.....................มิใช่ ให้เพิ่งมา ขยับเขยื้อน
ทำงาน ทำการ ผลาญเงินเดือน.........................เสมือน ทุจริต คิดมารยา
๏ (คล้าย)คนแก่ ใกล้ตาย ค่อยได้คิด.......................ห่วงใย ชีวิต ชาติเบื้องหน้า
บริจาค ทรัพย์สิน (ที่)ดินเงินตรา........................เข้าวัด เข้าวา พนมมือ(สวดมนต์,รับศีลฯลฯ)
๏ แต่ส่วนใหญ่ หลายคน ยังฉลจิต...........................ยึดติด มิจฉา มนาถือ
ไม่เชื่อ บาป-บุญ (สิ่ง)คุ้นเคยคือ........................เพียงชื่อ นับถือพุทธ ดุษฎี(ตามทะเบียนบ้าน)
๏ พึ่งวัด พึ่งวา เพื่อหาหวย....................................กราบไหว้ ให้ช่วย อำนวยศรี
ขับไล่ เคราะห์กรรม ตามราวี.............................ประกอบ พิธี คาถาอาคม
๏ บวชพระ ก็เพื่อ เอื้อชีวิต.....................................พ้นพิษ จนยาก ลำบากสม
ลาภยศ สักการะ อภิรมย์..................................กินอยู่ อุดม และงมงาย(บวชไปก็ไม่ได้บุญ)
๏ (คน)ก่อกรรม ทำเข็ญ อยู่เป็นชาติ........................แก่วัย ใกล้ถึงฆาต ค่อยมาดหมาย
ทำบุญ สุนทาน ก่อนกาลตาย...........................แพร่หลาย ให้เห็น เป็นธรรมดา
๏ (ถาม)จะได้ บุญย้อน เอาตอนไหน?.....................เกิดใหม่ ยากล้น จนอิดหนา
เพิ่งจะ สุขสบาย ในยามชรา.............................แล้วก็ มรณา (กรรม)สนองคืน?
๏ จึงควร ทำบุญ สุนทานจิต...................................ตลอดทั้ง ชีวิต อย่าคิดฝืน
ทาน-ศีล-ภาวนา ศรัทธายืน..............................ร่มรื่น ฤดีทุก นาทีเทอญฯ
๑ สิงหาคม ๒๕๖๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น