ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563

กิเลสลด ปรากฏกุศล : กลอนคติธรรม


กิเลสลด ปรากฏกุศล : กลอนคติธรรม

    ทะเลสาบ ฉาบไล้ (เงาสะท้อน)ฟ้าใสสด..............................เขาวงกต งดงาม อร่ามศรี

พลันแผ่นฟ้า ร่วมประสม รมย์ปัถพี......................................เสมือนมี เวทมนต์ วิกลการณ์(วิกล=แปลกไป)

 

    ดวงดารา ปรากฏ หมดจดแจ้ง............................................หลังปราศแสง อาทิตย์ ประดิษฐาน

คืนข้างแรม แย้มสะพัด รัตติกาล........................................อย่างโอฬาร บานเบิก ฤกษ์วิไล

 

     บ่มีเมฆ เสกสรร บันดาลส่อง.............................................ฟ้าผุดผ่อง ต้องตา สะอาดใส

ทางช้างเผือก เทือกธาร อันแสนไกล.................................กลับปรากฏ สดใส ใกล้โลกา

 

    ปรมัตถ์ สัทธรรม อันล้ำลึก................................................มิอาจตรึก ตรองด้วย ทวยตัณหา(ความอยากรู้อยากเห็น)

จิตทวี กิเลส และเวทนา..................................................อวิชชา มารยาล้น พ้นบดบัง

 

    ต้องกำจัด ตัดกิเลส เฉดตัณหา..........................................อย่างอุตสา หะฤดี จึงมีหวัง

ความซื่อสัตย์ สุจริต พินิจดัง.............................................กุญแจเปิด ห้องกักขัง มืดทั้งมวล

 

    (ความ)เห็นแก่ตน เห็นแก่ได้ (ทำให้)ไร้ทางออก...................จิตยอกย้อน(คด) ซอนซอก กลิ้งกลอกผวน

ขาดซึ่งความ มั่นคง หลงเรรวน..........................................เลห์หลายฯลฯล้วน กวนให้ ใจขุ่นมัว

 

    ประจักษ์ชัด สัทธรรม สัมมาบท.........................................ต้องละลด บัดสี วิถีชั่ว

จิตบังเกิด กุศล ผลพันพัว.................................................เปิดดวงตา(ปัญญา) ไล่(ความมืด)สลัว พ้นหัวใจ

 

    กิเลสลด หมดกำแหง แรงตัณหา.......................................กุศลา จะเพิ่มพูน จำรูญให้

ปรมัตถ์ สัทธรรม ส่องอำไพ...............................................ต่อเมื่อไม่ ยึดมั่น สังขาร(ว่าเป็นตน-เป็นของตน)เอยฯ

 

๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๓

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น