๏ ทะเลสาบ ฉาบไล้ (เงาสะท้อน)ฟ้าใสสด..............................เขาวงกต งดงาม อร่ามศรี
พลันแผ่นฟ้า ร่วมประสม รมย์ปัถพี......................................เสมือนมี เวทมนต์ วิกลการณ์(วิกล=แปลกไป)
๏ ดวงดารา ปรากฏ หมดจดแจ้ง............................................หลังปราศแสง อาทิตย์ ประดิษฐาน
คืนข้างแรม แย้มสะพัด รัตติกาล........................................อย่างโอฬาร บานเบิก ฤกษ์วิไล
๏ บ่มีเมฆ เสกสรร บันดาลส่อง.............................................ฟ้าผุดผ่อง ต้องตา สะอาดใส
ทางช้างเผือก เทือกธาร อันแสนไกล.................................กลับปรากฏ สดใส ใกล้โลกา
๏ ปรมัตถ์ สัทธรรม อันล้ำลึก................................................มิอาจตรึก ตรองด้วย ทวยตัณหา(ความอยากรู้อยากเห็น)
จิตทวี กิเลส และเวทนา..................................................อวิชชา มารยาล้น พ้นบดบัง
๏ ต้องกำจัด ตัดกิเลส เฉดตัณหา..........................................อย่างอุตสา หะฤดี จึงมีหวัง
ความซื่อสัตย์ สุจริต พินิจดัง.............................................กุญแจเปิด ห้องกักขัง มืดทั้งมวล
๏ (ความ)เห็นแก่ตน เห็นแก่ได้ (ทำให้)ไร้ทางออก...................จิตยอกย้อน(คด) ซอนซอก กลิ้งกลอกผวน
ขาดซึ่งความ มั่นคง หลงเรรวน..........................................เลห์หลายฯลฯล้วน กวนให้ ใจขุ่นมัว
๏ ประจักษ์ชัด สัทธรรม สัมมาบท.........................................ต้องละลด บัดสี วิถีชั่ว
จิตบังเกิด กุศล ผลพันพัว.................................................เปิดดวงตา(ปัญญา) ไล่(ความมืด)สลัว พ้นหัวใจ
๏ กิเลสลด หมดกำแหง แรงตัณหา.......................................กุศลา จะเพิ่มพูน จำรูญให้
ปรมัตถ์ สัทธรรม ส่องอำไพ...............................................ต่อเมื่อไม่ ยึดมั่น สังขาร(ว่าเป็นตน-เป็นของตน)เอยฯ
๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๓
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น