ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568

อีกไม่นาน โลกจะย่างเข้าสู่สังคมไม่พึงประสงค์ของยุค ‘ดิสโทเปีย’


อีกไม่นาน โลกจะย่างเข้าสู่สังคมไม่พึงประสงค์ของยุค ‘ดิสโทเปีย’

(6 ส.ค. 2568) โม กอว์ดัต อดีตผู้บริหารของ ‘กูเกิล’ ได้ออกปากเอ่ยคำเตือนสุดสะพรึงเกี่ยวกับสังคมในอนาคตของโลกของเราผ่านรายการ The Diary Of A CEO โดยระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่เราจะได้อยู่ในยุคของ ‘ดิสโทเปีย’ ในเวลาอันใกล้ 

กอว์ดัตเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจของ ‘Google X’ ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาที่ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ ‘X Development LLC’

หลังจากร่วมงานกับกูเกิลในปี 2550 และทำงานอยู่ที่นั่นมาหลายปี จึงกล่าวได้อย่างเต็มปากว่าผู้บริหารชาวอียิปต์ผู้นี้ย่อมมีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและ ‘เอไอ’ แต่ระหว่างการปรากฏตัวในรายการ The Diary of a CEO เขากลับไม่ได้พูดถึงอนาคตของโลกในแง่ดีมากนัก

ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ สตีเวน บาร์ตเลตต์ พิธีกรรายการ เขาเปิดเผยว่า “ในอีก 12 ถึง 15 ปีข้างหน้า เราจะเผชิญหน้ากับโลก ‘ดิสโทเปีย’ ระยะสั้น ไม่มีทางที่จะหนีพ้นจากสถานการณ์นั้นได้”

เขากล่าวว่า โลกดิสโทเปียในความหมายของเขา หมายถึงสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายที่อาจลุกลามไปไกลเกินกว่าที่เราจะควบคุมได้

ตามนิยมของสังคมดิสโทเปียหรือ หรือ “สังคมไม่พึงประสงค์” ก็คือสังคมในจินตนาการที่ไม่พึงปรารถนาและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว โลกจะมีผู้ควบคุมเบ็ดเสร็จ ประชาชนขาดอิสรภาพส่วนบุคคลและโดนเฝ้าระวังตลอดเวลา เช่นที่ปรากฏในวรรณกรรมเรื่อง 1984 และ The Hunger Games...

กอว์ดัตยังอ้างว่า ลักษณะและรูปแบบของแนวคิดหลายอย่าง เช่น เสรีภาพ ความรับผิดชอบ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน ความเท่าเทียม เศรษฐกิจ ความจริง นวัตกรรม ธุรกิจ และอำนาจ อาจเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงได้ 

อย่างไรก็ตาม น่าตกใจที่อดีตผู้บริหารของกูเกิลกลับบอกว่า สภาพสังคมดิสโทเปียนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเอไอ ทั้งที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนเกี่ยวกับศักยภาพที่น่าเป็นกังวลของมัน เขาชี้ว่ายุคดิสโทเปียนั้น “ถูกกำหนดโดยศีลธรรมของมนุษยชาติในยุคที่เอไอกำลังรุ่งเรือง” มากกว่า

เขาอธิบายว่าเราจะ “ผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบาก” จากการที่มี “คนที่ใช้เอไอในทางไม่ดี”  โดยย้ำว่าเขาเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่าในที่สุดแล้วเราจะเข้าสู่โลกในอุดมคติในระยะยาว แต่ก็แนะนำว่า เราจะต้อง “เตรียมพร้อม” สำหรับ “โลกที่ไม่คุ้นเคยอย่างมาก”

กอว์ดัตคาดการณ์ว่า โลกดิสโทเปียจะคงอยู่ไปอีก 12 ถึง 15 ปีข้างหน้า โดยมีจุดเริ่มต้นราวปี 2570

“เราจะเห็นสัญญาณที่ทวีความรุนแรงขึ้นในปีหน้า และหลังจากนั้นก็จะค่อยๆ แย่ลงในปี 2570” 

เขาอธิบายว่า “คุณต้องคิดให้ลึกลงไป ไม่ใช่คิดเรื่องสังคมที่เปลี่ยนแปลง แต่คิดเรื่องต้นเหตุที่ว่าทำไมโลกที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งก็คือ ‘เงิน’”... 

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4994691/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น