ยินดีต้อนรับ อาคันตุกะ ทุกท่าน

สมัคร Blogger.com ตั้งแต่ยังเป็นเว็ปอิสระ ต้องสร้างรหัสผ่าน แต่ตอนนั้นเพิ่งหัดใช้คอมพิวเตอร์จึงทำผิดพลาดตอนสร้างรหัส ทำให้บล็อก avijjabhikkhu เข้าไม่ได้ ต้องสร้างบล็อกใหม่ใช้ชื่อใหม่ จากคำว่า bhikkhu เป็น pikkhu แทน
ด้วยข้อจำกัดด้านเวลา-ข้อมูล-สติปัญญา-ความรู้ความสามารถ-ความรีบเร่ง ทำให้เกิดความผิดพลาดได้ ผู้เขียนขออภัยเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำเพื่อการแก้ไขความผิดพลาด ผู้เขียนไม่สงวนลิขสิทธิ์สำหรับการคัดลอก การนำไปเผยแพร่ที่ไม่ใช่เพื่อการค้า ขอเพียงแต่อย่าแอบอ้างว่าเป็นผลงานของผู้อื่น แต่ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ในผลงานนี้ สำหรับการนำไปเผยแพร่เพื่อการค้าหากำไร
*นักเรียน อย่าลอกเป็นการบ้านไปส่งครูนะครับ เพราะไม่สุจริต ไม่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาความรู้ความสามารถ ดูไว้เป็นตัวอย่างก็พอ
มีอะไรสงสัย ไม่เข้าใจ ต้องการคำอธิบาย ก็ถามมาได้

วันพุธที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2567

เด็กจีนวัย 11 ปีไหวพริบดี เอาตัวรอดจากลิฟต์ร่วงชั้น 9 เฉลยไปเอาความรู้จากไหน


เด็กจีนวัย 11 ปีไหวพริบดี เอาตัวรอดจากลิฟต์ร่วงชั้น 9 เฉลยไปเอาความรู้จากไหน


กระแสไวรัลในโลกออนไลน์กำลังฮือฮาถึงไหวพริบของเด็กน้อยวัย 11 ปีที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สุดระทึกในชีวิต โดยลิฟต์โดยสารร่วงลงมากว่า 10 ชั้น แต่โชคดีที่ปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ แถมชาวเน็ตหลายคนยกย่องเขาว่า “ฉลาดมาก”

ตามรายงาน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ในเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ประสบอุบัติเหตุขัดข้องขณะโดยสารลิฟต์ เมื่อเขากำลังกลับบ้าน จู่ ๆ หน้าจอลิฟต์แสดงผลขัดข้องกะทันหันก็ตกลงมาจากชั้น 9 ซึ่งเด็กหนุ่มพยายามกดกริ่งเรียกฉุกเฉินทันที และกดปุ่มสำหรับแต่ละชั้นเพื่อชะลอความเร็วของลิฟต์


จากนั้นดึงราวจับให้อยู่ในท่านั่งยอง ๆ ซึ่งขณะนั้นเด็กชายมีท่าทีตื่นตระหนกเล็กน้อย แต่เขาก็ยังผ่านช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นไปได้ ในที่สุดลิฟต์ก็มาหยุดลงที่ชั้น B3 ที่เป็นชั้นใต้ดิน หลังจากที่เด็กชายออกจากลิฟต์แล้ว เขาก็ไม่ลืมที่จะเตือนคนที่กำลังจะเข้าลิฟต์ว่า ลิฟต์เสียและไม่ใช้งาน

กระบวนการจัดการเหตุการณ์วิกฤตอย่างใจเย็นถูกบันทึกไว้บนจอภาพ หลังจากนั้นแม่ของเด็กชายให้สัมภาษณ์ว่า วันนั้นมีชายคนหนึ่งอยู่ในลิฟต์ เมื่อชายออกจากลิฟต์ที่ชั้น 9 เหลือเด็กชายเพียงคนเดียวแม่ของเด็กชายเผยว่า ลูกชายของเธอมักจะชอบดูสารคดี ดังนั้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เขาจึงสามารถนำความรู้ที่ได้เรียนรู้ไปใช้


นับตั้งแต่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ก็มีคนเข้ามาชมเด็กชายกันอย่างล้นหลาม เช่น “ใจเย็น และมีไหวพริบมาก” , “เด็กดีจะเป็นคนดี” , “เด็กคนนี้จะเป็นคนดีในอนาคต ต่อไปจะไม่ตื่นตระหนกและสงบสติอารมณ์ เมื่อสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น”, “พ่อแม่สอนดีมาก” , “เป็นเรื่องดีที่ได้สงบสติอารมณ์ในเวลาที่ยากลำบาก”, “เด็กคนนี้เยี่ยมมาก เขาเจ๋งมาก”... 

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_9348421

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น