จงเข้มแข็ง-อย่าอ่อนแอ: กลอนคติสอนใจ
๏ ลูกแมวน้อย อ้อยอิ่ง ถูกทิ้งวัด*...............................ที่อัตคัด ขัดสน คนช่วยเหลือ
เลิกถามหา พระเณร เช่นหยากเยื่อ........................น้อยนิดเชื่อ บาป-บุญ จุนชีวี(แมวหมาที่ถูกทิ้งวัด)
๏ บ่รู้ว่า ชะตากรรม(ใด) ทำก่อนเก่า...........................จึงถูกเขา ทิ้งขว้าง สร้างโศกศรี
ถึงกระนั้น ในวันโศก ยัง(พอ)โชคดี........................นมแม่ที่ เคยกิน ชีวินฉกรรจ์**
๏ อดนม(นาน)จน เสียงแหบแห้ง แรงร่อยหรอ.............บุญคงพอ มีอยู่ (เสียงร้อง)เข้าหูฉัน
น้ำตา(แห้ง)ปิด ตาสองข้าง*** บังคืนวัน.................อดีตอัน เศร้าสร้อย ปล่อยผ่านไป
๏ อย่ามัว(หมกมุ่น)นึก ถึงกาล อันก่อนเก่า...................ดีแต่เอา เป็นบทเรียน เธียรอาศัย(ในโลก)
ประสบการณ์ ที่ผ่านพ้น ดลเข้าใจ..........................(ควร)ทำอะไร(อย่างไร) ใคร่คิด ถูก-ผิดตรอง
๏ โดยเฉพาะ พบพาน วารเศร้าโศก............................โลกทั้งโลก (จะ)ไม่โศกเศร้า ร่วมเราสนอง
มีเพียง(กู)เรา ผู้เดียว เปลี่ยวใจปอง.......................และคนจ้อง ประสงค์ร้าย สนใจจำ
๏ เตือนอุรา อย่ามัวเขลา โศกเศร้าคิด..........................ปราศประโยชน์ โทษพินิจ จิตชอกช้ำ
สติปัญญา ถดถอย พลอยเสื่อมต่ำ..........................ตกระกำ ลำบาก ยากเพิ่มพี
๏ มองให้กว้าง ไปข้างหน้า อนาคต..............................เพียรทำให้ จิตใสสด หมดจดศรี
เหนื่อยเพียงใด ก็ให้ทำ แต่กรรมดี..........................ความชั่วสรรพ อัปรีย์ มิกล้ำกราย
๏ กาลที่ล่วง เลยไป ไม่อาจแก้(ไข)..............................มองเหมือนแค่ เป็นครู ผู้ห่างหาย
กาลข้างหน้า ต่างหาก ถ้าอยากสบาย......................จงขวนขวาย ใคร่ครวญ (จิตใจ)อย่าปรวนแปร
๏ ความโศกเศร้า เร้าฤทัย ให้แออ่อน(อ่อนแอ)...............จงตัดรอน ก่อนจะสาย จนพ่ายแพ้
ชีวิตต้อง เข้มแข็ง แกร่งดวงแด...............................จึงจะแก้ ปัญหาได้ ง่ายดายเอยฯ
๒ ธันวาคม ๒๕๖๕
* เมื่อวานตอนพลบค่ำ ขณะเลี้ยงแมวที่วัดตามปกติ ก็ได้ยินเสียงแหบๆ-เบาๆของลูกแมวดังมาจากรั้วข้างกุฏิ
ในเงามืดเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นลูกแมวตัวเล็กอายุประมาณ 3 สัปดาห์-ตัวเล็ก-ยังไม่หย่านม ดวงตาปิดทั้ง 2 ข้างเพราะน้ำตาที่แห้งกรัง เนื้อตัวสกปรกมีกลิ่นเหม็นเหมือนมาจากกองขยะ พยายามร้องเรียกแม่ด้วยแรงที่เหลือน้อยนิด เมื่อเอาอาหารเปียกให้กินก็ไม่กิน จับมาดมอาหารก็ไม่กิน กลับพยายามดิ้นรนมาหาคน คิดว่าในเวลาไม่นาน คงไม่รอดจากกลุ่มหมาวัดที่ชอบไล่ล่าแมว หรืออดอาหารตาย เพราะพระเณรวัดนี้ไม่สนใจใยดีแมว แม้กระทั่งหมาก็ได้กินแค่เศษอาหารที่กินเหลือ จนแมวหมาในวัดต้องพึ่งพาคนนอกวัด มาเลี้ยงดูแทนพระเณรที่เห็นแก่ตัว ปราศจากเมตตาธรรม เมื่อคิดว่าลูกแมวยังต้องกินนม และคงไม่มีใครนอกจากเราที่จะทำหน้าที่ได้ จึงพากลับบ้าน เมื่อคืน หลักจากเช็ดเนื้อเช็ดตัว ให้กินนมแพะที่เพิ่งไปซื้อ ถ้ารอดเกิน 3 วันค่อยซื้อนม KMR นมทดแทนสำหรับลูกแมว สารอาหารเหมือนนมแม่แมวให้กิน**นมแม่สร้างภูมิต้านทานโรค ลูกสัตว์ที่ไม่ได้กินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด มักอยู่ได้ไม่นาน ถึงรอดชีวิตก็จะมีสุขภาพอ่อนแอ ปัญญาอ่อนฯลฯ
***คงติดเชื้อไวรัสที่ตา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น