ภาพสะเทือนอารมณ์ ชายชรานั่งกินอาหารอย่างเดียวดายกับเถ้าอัฐิภรรยาในวันวาเลนไทน์ 7 ก.พ. 2561
เดลีเมล์รายงานเรื่องราวจากหญิงคนหนึ่ง ที่ไปเห็นภาพน่าสะเทือนใจของชายชราที่นั่งร้องไห้อยู่ลำพัง ในร้านอาหารที่เมืองคอร์ปัส คริสตี รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันวาเลนไทน์ เมื่อสังเกตไปที่โต๊ะเห็นที่นั่งฝั่งตรงข้ามเป็นขวดใส่เถ้าอัฐิภรรยาที่จากไป และมีแก้วไวน์วางไว้ด้านหน้าด้วย เสมือนว่าภรรยายังมีชีวิตนั่งอยู่ด้วย
“ฉันเห็นภาพวันนี้ที่ทำให้ฉันคิดได้ว่า บางทีเราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้พูดกัน ไม่ได้ห่วงใย หรือเล่น หรือแม้แต่ทะเลาะกัน ภาพๆ นี้บอกด้วยเสียงอันดังว่า มันอาจทำให้หัวใจคุณเจ็บปวดเหมือนที่ฉันเป็นก็ได้” แชดสิดี กวาลนีย์ หญิงที่บันทึกภาพดังกล่าวและแชร์ในเฟซบุ๊ก เพื่อเตือนให้ทุกคนใส่ใจคนรอบข้าง ก่อนที่จะเสียโอกาสไป
“เราอาจจะไม่ได้สังเกตเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มากนักสำหรับคนพิเศษของเรา ผู้ชายคนนี้ใช้เวลาวันวาเลนไทน์ตามลำพัง เขามองไปเหมือนว่าภรรยาของเขายังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ความรักที่เขามีให้ภรรยาแข็งแกร่งมากขณะที่เขานำอัฐิมาด้วย”
https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_758385
ความรักมักเปลี่ยนแปลง : กาพย์ยานี๑๑
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ] ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
๘. สัลลสูตร ว่าด้วยลูกศรคือกิเลส (พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระสูตรนี้แก่อุบาสกคนหนึ่งผู้โศกเศร้าเพราะบุตรตาย ด้วยพระคาถาดังนี้) [๕๘๐] ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ไม่มีนิมิตใครๆ รู้ไม่ได้ ทั้งลำบาก สั้นนิดเดียว และประกอบด้วยทุกข์ [๕๘๑] วิธีที่สัตว์ผู้เกิดมาแล้วจะไม่ตายย่อมไม่มี แม้จะอยู่ไปจนถึงชรา ก็จะต้องถึงแก่ความตาย เพราะสัตว์ทั้งหลายมีความตายอย่างนี้เป็นธรรมดา [๕๘๒] สัตว์ที่เกิดมาแล้ว มีภัยจากความตายเป็นนิตย์ เหมือนผลไม้สุกแล้วมีภัยจากการหล่นไปในเวลาเช้า ฉะนั้น [๕๘๓] ภาชนะดินที่ช่างหม้อทำไว้ทั้งหมด มีความแตกเป็นที่สุด ฉันใด ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ก็เป็นฉันนั้น
[๕๘๔] มนุษย์ ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ โง่ และฉลาด ทั้งหมด ย่อมไปสู่อำนาจความตาย มีความตายรออยู่ข้างหน้า [๕๘๕] เมื่อมนุษย์เหล่านั้นถูกความตายครอบงำอยู่ กำลังจะจากโลกนี้ไปสู่ปรโลก บิดาก็ต้านทานบุตรไว้ไม่ได้ หรือหมู่ญาติก็ต้านทานญาติไว้ไม่ได้ [๕๘๖] เมื่อพวกญาติ กำลังเพ่งมองดูอยู่ รำพันกันเป็นอันมากอยู่นั่นแหละว่า จงดูสัตว์แต่ละตนๆ ถูกความตายนำไป เหมือนโคถูกนำไปฆ่า ฉะนั้น [๕๘๗] สัตว์โลกถูกความแก่และความตายครอบงำอยู่อย่างนี้ เพราะฉะนั้น นักปราชญ์ทั้งหลายทราบชัด ความเป็นจริงของสัตว์โลกแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก [๕๘๘] ท่านไม่รู้ทางของผู้มาหรือผู้ไป เมื่อไม่เห็นที่สุดทั้ง ๒ นี้ ถึงจะคร่ำครวญไปก็ไร้ประโยชน์ [๕๘๙] หากผู้ที่หลงคร่ำครวญ เบียดเบียนตนอยู่ จะพึงนำประโยชน์อะไรมาได้บ้าง บัณฑิตผู้มีปัญญาเห็นประจักษ์ก็จะพึงกระทำเช่นนั้นบ้าง [๕๙๐] บุคคลจะได้รับความสงบใจ เพราะการร้องไห้ เพราะความเศร้าโศกก็หาไม่ ทุกข์ย่อมเกิดแก่ผู้นั้นยิ่งขึ้น และร่างกายของเขามีแต่จะซีดเซียวลง[๕๙๑] ผู้ที่เบียดเบียนตนเอง ย่อมจะซูบผอม ไม่ผ่องใส สัตว์ทั้งหลายผู้ละไปสู่ปรโลก หาคุ้มครองตนอยู่ด้วยการคร่ำครวญนั้นได้ไม่ ฉะนั้น การคร่ำครวญจึงเป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์ [๕๙๒] ผู้ทอดถอนใจถึงคนที่ตายไปแล้วอยู่เสมอ บรรเทาความเศร้าโศกไม่ได้ ตกอยู่ในอำนาจแห่งความเศร้าโศก ย่อมได้รับทุกข์มากขึ้น [๕๙๓] ท่านจงดูแม้คนเหล่าอื่นผู้ใกล้จะตายไปตามกรรม และสัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ ผู้ตกอยู่ในอำนาจมัจจุราช ต่างพากันดิ้นรนอยู่ทั้งนั้น [๕๙๔] อาการใดๆ ที่สัตว์ทั้งหลายสำคัญหมาย อาการนั้นๆ ย่อมแปรผันเป็นอื่นไป การพลัดพรากจากกันและกันเช่นนี้ มีอยู่เป็นประจำ ท่านจงพิจารณาดูความเป็นจริงของสัตว์โลกเถิด [๕๙๕] บุคคลแม้จะดำรงชีวิตอยู่ถึง ๑๐๐ ปี หรือเกินไปบ้างก็ตาม ก็ต้องพลัดพรากจากหมู่ญาติ และต้องละทิ้งชีวิตไว้ในโลกนี้แน่นอน [๕๙๖] เพราะฉะนั้น บุคคลฟังธรรมเทศนาของพระอรหันต์แล้ว เห็นคนล่วงลับดับชีวิตไป กำหนดรู้ว่าผู้ล่วงลับดับชีวิตไปนั้น ไม่สามารถฟื้นคืนชีวิตอยู่ร่วมกับเราได้อีก ควรกำจัดความคร่ำครวญ[๕๙๗] ธีรชนผู้มีปัญญา ฉลาดปราชญ์เปรื่อง ควรขจัดความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน เหมือนลมพัดนุ่นปลิวไป เหมือนคนใช้น้ำดับไฟที่กำลังไหม้ลุกลาม ฉะนั้น [๕๙๘] บุคคลผู้แสวงหาความสุขแก่ตน ควรกำจัดความคร่ำครวญ ความทะยานอยาก และโทมนัสของตน ควรถอนลูกศรคือกิเลสของตน [๕๙๙] บุคคลผู้ถอนลูกศรคือกิเลสได้แล้ว เป็นผู้ไม่มีตัณหาและทิฏฐิอาศัย ถึงความสงบใจ ล่วงพ้นความเศร้าโศกได้ทั้งหมด ไม่มีความเศร้าโศก ชื่อว่าดับกิเลสได้แล้ว.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น