การกระทำสำคัญกว่าความ(แค่)รู้ : กลอนคติสอนใจ
๏ มหา(เปรียญ) มาถาม เรื่องทำบุญ..............ว่าคุณ(ทำบุญด้วยการ) สวดมนต์ ท่องบทไหน?
(พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนว่าสวดมนต์จะได้บุญ)
ตอบว่า ก็เลี้ยง แมววัดไง............................ทุกวัน(เช้า-เย็น) ทำไป ไม่ละเลย
๏ มหา พาที นี่คือทาน................................พรหมวิหาร ทั้ง ๔ คลี่เฉลย
สอนธรรม (มะ)คล่อง ท่อง(จำ)คุ้นเคย...........เปิดเผย ว่า(มีความ)รู้ แต่ไม่ทำ
๏ แมวหมา ที่เขา เอามาทิ้ง(วัด)....................พระชิง ชังใส่ ไม่อุปถัมภ์
ลูกแมว ลูกหมา ตาดำๆ..............................จุนค้ำ ชีวาตม์ โดยญาติโยม
(เอาอาหารไปเลี้ยงแมวหมาในวัด ยังถูกพระว่าทำให้วัดสกปรก)
๏ ให้ศีล สอนธรรม ตามพิธี...........................ทำที คึกคัก เหมือนหักโหม(พูดจริงทำจริง)
(ทั้ง)ผู้ให้ ผู้รับ มิซับโซรม............................สังคม โรมลาม ความอัปรีย์(โซรม=ช่วยกัน)
๏ ใส่ใจ การเรียน อย่าเพียรเล่น......................เด็กต่าง รู้เห็น เช่นวิถี
ผู้ใหญ่ สอนสั่ง หวัง(เด็ก)ได้ดี.......................แต่มี (เด็ก)กี่คน สนใจทำ?(ส่วนใหญ่เอาแต่เล่น)
๏ ใครไม่ รู้ว่า อย่าทุจริต?..............................(แต่)ใครคิด จริงจัง มิย่าง(ล่วง)ถลำ
กฎระเบียบ วินัย ใครใคร่จำ?..........................(ชอบ)ล่วงล้ำ กล้ำเกิน ดำเนินลาญ(ละเมิดกฎ)
๏ ปัญหา สภาวะ สิ่งแวดล้อม..........................สุมห้อม ชีวิต วิกฤติผลาญ
ต่าง(ก็)รู้ ทั่วไป (แต่)ไม่ต้องการ.....................กล้าหาญ ปฏิบัติ ตัดต้นตอ
๏ การกระทำ สำคัญ กว่าความ(แค่)รู้................มีผู้ ใส่ใจ เท่าไรหนอ?
สันดาน มนุษย์ สุดบ้าบอ...............................(เหมือน)คดในข้อ งอใน หทัยเอยฯ
๒๕ มกราคม ๒๕๖๘
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
๕. พาลวรรค หมวดว่าด้วยคนพาล ๑. อัญญตรปุริสวัตถุ เรื่องชายคนใดคนหนึ่ง (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่พระเจ้าปเสนทิโกศล และชายคนหนึ่ง ดังนี้) [๖๐] ราตรีหนึ่ง ยาวนานสำหรับคนผู้ตื่นอยู่ ระยะทางโยชน์หนึ่ง ยาวไกลสำหรับคนผู้เมื่อยล้า สังสารวัฏยาวนานสำหรับคนพาลผู้ไม่รู้แจ้งสัทธรรม
๒. มหากัสสปสัทธิวิหาริกวัตถุ เรื่องสัทธิวิหาริกของพระมหากัสสปเถระ
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุผู้อยู่ในกรุงราชคฤห์ ดังนี้) [๖๑] หากบุคคลเที่ยวหาคนดีกว่าตน หรือเสมอกับตนไม่ได้ ก็ควรถือการเที่ยวไปคนเดียวให้มั่นคง เพราะจะหาความเป็นเพื่อนในคนพาลไม่ได้เลย๓. อานันทเสฏฐิวัตถุ เรื่องอานันทเศรษฐี (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่เศรษฐีชื่อมูลสิริบุตรของอานันทเศรษฐี ดังนี้) [๖๒] คนพาลย่อมเดือดร้อนว่า “เรามีบุตร เรามีทรัพย์” แท้จริง ตัวตนก็ไม่มี บุตรและทรัพย์จักมีแต่ที่ไหน๔. คัณฐิเภทกโจรวัตถุ เรื่องโจรผู้ทำลายปม (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่โจรผู้ทำลายปมและชนทั้งหลาย ดังนี้) [๖๓] คนพาลที่รู้ตัวว่าเป็นคนพาล ยังเป็นบัณฑิตได้บ้าง แต่คนพาลที่สำคัญตนว่าเป็นบัณฑิต นั่นแหละ เรียกว่า คนพาลแท้
๕. อุทายิเถรวัตถุ เรื่องพระอุทายีเถระ (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๖๔] คนพาล แม้จะอยู่ใกล้บัณฑิตชั่วชีวิต ก็ไม่รู้แจ้งธรรม เหมือนทัพพีไม่รู้รสแกง ฉะนั้น๖. ปาเฐยยกภิกขุวัตถุ เรื่องภิกษุชาวเมืองปาฐา (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๖๕] วิญญูชน แม้จะอยู่ใกล้บัณฑิตเพียงชั่วครู่ ก็รู้แจ้งธรรมได้ฉับพลัน เหมือนลิ้นรู้รสแกง ฉะนั้น๗. สุปปพุทธกุฏฐิวัตถุ เรื่องนายสุปปพุทธะผู้เป็นโรคเรื้อน (พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้) [๖๖] คนพาลผู้มีปัญญาทราม ทำตนให้เป็นดุจข้าศึก เที่ยวทำบาปกรรมที่ให้ผลเผ็ดร้อน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น